หน้าหลัก ข่าว คลิปข่าว ข่าวประชาสัมพันธ์ สังคมบ้านเรา แหล่งกิน-แหล่งเที่ยว ธุรกิจ-เศรษฐกิจ บุคคลเด่น ติดต่อเรา
องค์การบริหารส่วนจังหวัดชลบุรี

เทศบาลเมืองศรีราชา

เทศบาลนครแหลมฉบัง

เทศบาลนครเจ้าพระยาสุรศักดิ์
เทศบาลตำบลบางพระ

องค์การบริหารส่วนตำบลหนองขาม

 


สส.หนึ่ง เข้าช่วยหญิงวัย54

   สาวใหญ่ชีวิตสุดรันทด ป่วยหนัก หลายโรครุมเร้า นอนติดเตียง วอน ส.ส.ขวัญเลิศ พานิชมาท ช่วยตามหาลูกชายและลูกสาว ที่ไม่ได้พบกันมา 30 ปี หลังคลอดลูกชายแล้ว แม่ยกให้คนอื่นเลี้ยง ส่วนลูกสาวมีคนมารับไปเลี้ยง แล้วไม่เคยพบกันอีกเลย

นางสาวพจนารถ ทองห่อ อายุ 54 ปี ได้ติดต่อขอความช่วยเหลือไปถึง นายขวัญเลิศ พานิชมาท สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดชลบุรี (อำเภอศรีราชา-อำเภอเกาะสีชัง) เพื่อขอความช่วยเหลือให้ช่วยตามหาลูกชายและลูกสาวที่ไม่ได้พบกันมานานถึง 30 ปี หลังตัวเองเป็นผู้ป่วยติดเตียง มีหลายโรครุมเร้า จึงอยากจะพบเจอลูกชายและลูกสาวก่อนที่จะลาจากโลกนี้ไป เมื่อทราบเรื่องดังกล่าวผู้สื่อข่าวจึงประสานไปยัง นายขวัญเลิศ พานิชมาท ให้รับทราบและเข้ามาตรวจสอบ
หลังทราบเรื่อง นายขวัญเลิศ พานิชมาท สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดชลบุรี (อำเภอศรีราชา-อำเภอเกาะสีชัง) พร้อมด้วยทีมงานได้เดินทางเข้ามาตรวจสอบที่บ้านเช่าเลขที่ 322/75 หมู่ 8 ตำบลสุรศักดิ์ อำเภอศรีราชา จังหวัดชลบุรีพบว่า นางสาวพจนารถ ทองห่อ ได้นอนป่วยอยู่บนเตียงภายในบ้าน โดยพักอาศัยอยู่กับลูกสาว อายุ 18 ปี และลูกชายคนเล็ก อายุ 16 ปี โดยพบว่า นางสาวพจนารถ สภาพร่างกายซูบผอม เหลือแต่หนังหุ้มกระดูก ตามองไม่เห็นทั้งสองข้าง ต้องใช้เครื่องช่วยหายใจ สอบถามทราบว่าป่วยเป็นโรคหอบ ถุงลมโป่งพอง ท่อปัสสาวะอักเสบ ต้องกินยาไปตลอดชีวิต
เมื่อทราบว่าทีมงาน ส.ส.ขวัญเลิศเข้าไปหา ก็ร้องไห้ออกมาด้วยความดีใจ และเล่าเรื่องราวให้ทีมงานได้ฟังทั้งน้ำตาว่า ตนเองเป็นผู้ป่วยมีโรครุมเร้าหลายโรคทั้งถุงลมโป่งพอง โรคหอบหืด ปอดไม่ดีทั้งสองข้าง ท่อปัสสาวะอักเสบ ต้องกินยาตลอดชีวิต ตอนนี้มีความเดือดร้อนเรื่องของใช้ เงินไปโรงพยาบาล และอยากเจอลูกมากที่สุดในชีวิต ซึ่งตนเองอยากเจอมาตั้งนานแล้วตั้งแต่วันที่เรายกลูกชายคนที่สองให้คนอื่นไป มันเสียความรู้สึกที่เรายกลูกให้เค้าไป ที่จริงเราไม่เต็มใจยกลูกให้ไป และคิดถึงลูกตลอดมา 30 ปีเต็ม ก็เคยไปตามหาที่เทศบาลให้ช่วยค้นหาแต่ก็ไม่เจอ ส่วนคนผู้หญิงซึ่งเป็นลูกคนที่สามก็ไม่รู้ว่ามีชื่อจริงว่าอะไร รู้ว่าลูกชายชื่อเปเป้ หรือนายพรพจน์ วงษ์วิจิตร อายุ 30 ปี ซึ่งตอนนี้ไม่รู้ว่าเปลี่ยนชื่อไปหรือยัง ส่วนลูกสาวตั้งชื่อว่าน้องเก็ต แต่ไม่ทราบชื่อจริง เนื่องจากไม่เคยเจอตัว เคยเจอแต่ในห้องคลอดเพียงครั้งเดียวเท่านั้น
พร้อมทั้งเล่าเรื่องราวในอดีตของลูกชายคนที่สองที่กำลังตามหาว่า ตอนนั้นเรามีลูกคนโตอยู่ แล้วพอคลอดออกมา แม่เราก็ยกลูกให้กับป้ายงค์ที่อยู่ห้องเลือดไป เราไม่ได้เต็มใจยกลูกให้เค้าไป ซึ่งตอนนี้ป้ายงค์ได้เสียไปแล้ว ส่วนลูกสาวซึ่งเป็นลูกคนที่สามนั้น เราไปคลอดลูกแล้วนอนพักอยู่สองวันก็ได้กลับบ้าน แล้วก็เอะใจว่าทำไมเค้าไม่เอาลูกมาให้เราเสียที พอดีเพื่อนที่ไปคลอดด้วยกัน ก็ออกมารับที่โรงพยาบาล แล้วไปถามที่ห้องคลอดทราบว่ามีแม่เด็กมารับไปแล้ว เราก็เลยช็อกเดินกลับ โดยไม่รู้จะทำอย่างไร จึงอยากจะเจอลูกทั้งสองคนนี้มาก จึงอยากฝากบอกว่า แม่รักลูกมาก คิดถึงลูกที่สุด ถ้าลูกทั้งสองทราบเรื่องก็อยากให้กลับมาหาที่บ้านเช่าแห่งนี้ แต่ถ้าถูกให้ออกจากบ้านเช่าแห่งนี้ไปก็แจ้งให้ ส.ส.ขวัญเลิศ ได้ทราบว่าย้ายไปอยู่ที่ไหน ซึ่งตอนนี้ตนต้องไปหาหมอตามนัดด้วย ซึ่งที่อยากเจอลูกเพราะความรู้สึกของคนเป็นแม่ เราคลอดเค้าออกมาเราได้เห็นหน้าเค้าแป๊บเดียว ตอนนี้สายตาก็มองไม่เห็นมา 4 ปีแล้วด้วย
ด้าน นายขวัญเลิศ พานิชมาท สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดชลบุรี (อำเภอศรีราชา-อำเภอเกาะสีชัง) เปิดเผยว่า ในวันนี้ได้รับการติดต่อมาว่ามีคุณพจนารถอยากพบตัว เพื่อขอให้ช่วยติดตามลูกชายและลูกสาวที่พลัดพรากกันมา 30 ปีแล้ว ซึ่งถ้าเกิดว่ามีใครรู้จัก นายพรพจน์ วงษ์วิจิตร อายุ 30 ปี เกิดวันที่ 30 กรกฎาคม ก้อยากให้ช่วยติดต่อมา จากการสอบถามเบื้องต้น ทางเราจะพาคุณพจนารถไปรักษาตัวยังสถานที่ที่มีการดูแลอย่างใกล้ชิด แต่ก็ได้รับคำปฏิเสธ จะขอใช้ชีวิตช่วงสุดท้ายให้ได้อยู่กับลูก คือตอนนี้ถ้ามีโอกาสอยากได้กำลังใจจากลูกที่เค้าตามหาอยู่ ถ้าเกิดว่ามีท่านใดมีชื่อตามที่ได้แจ้งไป ก็ขอให้ติดต่อมาได้ที่ตนเอง จะได้เข้ามาดูแลและเยี่ยมคุณแม่ด้วยกัน ส่วนลูกสาวไม่แน่ใจในเรื่องของชื่อทราบว่าไม่รู้จักชื่อ ซึ่งเค้าแยกกันตั้งแต่คลอดลูก เนื่องจากคุณพจนารถไม่ได้ติดบัตรประชาชนไปจึงไปแจ้งชื่อคุณแม่ว่า นิตยา สมบุตร เมื่อประมาณกว่า 20 ปีที่ผ่านมา แต่ตนเองจะพยายามติดตามหาตัวจากข้อมูลของโรงพยาบาลจากช่วงวันเวลาหรือชื่อที่คุณพจนารถได้แจ้งไป ก็จะลองติดตามเบื้องต้นให้
ซึ่งโดยสรุปเรื่องราวคุณพจนารถ ทองห่อ ได้มีบุตรทั้งสิ้น 7 คน คนโตเป็นผู้ชายมีครอบครัวอยู่ที่จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ คนที่สองและสามเป็นผู้ชายและผู้หญิงที่ตามหาอยู่ คนที่สี่เป็นผู้ชายมีครอบครัวอยู่จังหวัดสกลนคร คนที่ห้าเป็นผู้หญิงอายุ 22 ปีมีครอบครัวแล้ว คนที่หกเป็นผู้หญิงอายุ 18 ปีและคนที่เจ็ดเป็นผู้ชายอายุ 16 ปี ซึ่งคนที่ 6 และ 7 อาศัยอยู่ด้วยกันโดยไม่ได้ทำงานเนื่องจากอายุยังน้อยและไม่ได้เรียนหนังสือ ซึ่งเบื้องต้นมีหน่วยงานจากอำเภอศรีราชา เทศบาลนครเจ้าพระยาสุรศักดิ์ เจ้าหน้าที่ อสม. แวะเวียนเข้ามาดูแลอยู่แล้วในปัจจุบัน

 

 


 

 
อัสสัมชัญศรีราชา จัดการแสดงคอนเสิร์ต ศูนย์ดนตรี “A..

ทลฉ.- กนอ. แหลมฉบัง จัดพิธีถวายราชสดุดีเฉลิมพระเกี..

ชาวต่างชาติเสียชีวิตคาบ้านหรู..

รพ.สมเด็จ ฯ ณ ศรีราชา จัดโครงการรณรงค์วันสะเก็ดเงิ..

เพื่อนคบมานานกว่าปีสุดทนคว้ามีจ้วงแทงดับ..

นิคมฯแหลมฉบัง มั่นใจระบบคุณภาพน้ำ เชื่อเหตุเกิดจา..

ปตท. มอบสิ่งของ น้ำดื่ม เพื่อเป็นขวัญกำลังใจกับบุค..

โรงเรียนเทศบาลบ้านศรีมหาราชา ทำบุญตักบาตร..

สวนสัตว์เปิดเขาเขียว ร่วมลงนามน้อมเกล้าถวายอาลัย…...

เรือบรรทุกสินค้า มักง่าย ปล่อยน้ำมันทิ้งลงทะเลแหลม..

ปตท. มอบทุนการศึกษาให้เยาวชนในพื้นที่รับผิดชอบ ปร..

รมช.กระทรวงคมนาคมเปิดดำเนินการโครงการศูนย์การขนส่ง..

 

 

———————————————————————————————————————————————————————————–––––––––
www.chonburitoday.com © All Rights reserved 2016