เวลาที่รอคอย ผ่าตัดตาสำเร็จ
เวลาที่รอคอย นักเรียนหญิงวัย 13 ปีเขียนจดหมายถึงนายอำเภอศรีราชาให้ช่วยเหลือพ่อ ที่ป่วยโรคไตและตาบอดเนื่องจากโรคเบาหวานทั้ง 2 ข้างจนได้รับการช่วยเหลือเข้าทำการผ่าตัดดวงตา อาการล่าสุดเห็นแสงสว่าง ดีใจอาจกลับมองเห็นโลกใหม่อีกครั้ง
จากเหตุการณ์ครั้งนี้เนื่องจากเมื่อกว่า 4 เดือน ที่ผ่านมา ด.ญ.ณัฐมน ใจกาศ อายุ 13 ปี นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 โรงเรียนเทศบาลบ้านศรีมหาราชา ได้เขียนจดหมายถึง นายวรญาณ บุญณราช นายอำเภอศรีราชา จ.ชลบุรี (ตำแหน่งขณะนั้น) ว่าตนอยู่กับบิดา และน้องชายอายุ 6 ขวบ ส่วนแม่ได้แยกทางกับพ่อตั้งแต่หนูเล็กๆ แต่ขณะนี้บิดาป่วยโดยโรคไต เบาหวาน จนทำให้ตาทั้ง 2 ข้างบอด โดยจะต้องทำการฟอกไตโดยด่วน เนื่องจากอาการเริ่มทรุดหนัก ซึ่งทำให้ตน และน้องชายจะไม่ได้เรียนหนังสือเพราะต้องดูแลบิดาตลอดเวลา ดังนั้นจึงได้เขียนจดหมายเพื่อขอความช่วยเหลือจากนายอำเภอศรีราชา
โดย นายวรญาณ บุญณราช นายอำเภอศรีราชา(ตำแหน่งขณะนั้น) ปัจจุบันดำรงตำแหน่ง ผู้ตรวจราชการ กรมการปกครอง หลังได้รับจดหมายแล้วจึงได้ประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ประกอบด้วย โรงพยาบาลสมเด็จพระบรมราชเทวี ณ ศรีราชา สภากาชาดไทยอำเภอศรีราชา โรงเรียนเทศบาลบ้านศรีมหาราชา เพื่อร่วมวางแนวทางในการช่วยเหลือในครั้งนี้ เนื่องจากทราบความเดือดร้อน และความต้องการของครอบครัวนี้ จนในที่สุดได้รับการรักษาจาก รพ.สมเด็จฯ ณ ศรีราชา เพื่อให้เด็กได้สามารถเรียนหนังสือได้ตามปกติ และในวันนี้ทางโรงพยาบาลได้นัดให้นายศุภฤกษ์ รุ่งระวี บิดาของ ด.ญ.ณัฐมน ใจกาศ เข้ามารับการผ่าตัดดวงตา จนผ่านไปได้ด้วยดี
ด.ญ.ณัฐมน ใจกาศ เผยว่า รู้สึกดีใจมากๆ ที่พ่อจะได้รับการผ่าตัดดวงตาแล้ว และมีโอกาสจะกลับมามองเห็นอีกครั้ง ซึ่งหนูต้องขอขอบคุณนายอำเภอวรญาณ ที่ช่วยเหลือให้พ่อได้รับการรักษาโรคไต และได้รับการผ่าตัดดวงตา หลังจากที่หนูเขียนจดหมายไปขอความช่วยเหลือจากนายอำเภอวรญาณ จนถึงวันนี้กว่า 4 เดือน ซึ่งเป็นวันที่พวกเรา 3 คนพ่อลูกดีใจมาก ด้านนายศุภฤกษ์ รุ่งระวี อายุ 43 ปี บิดา ด.ญ.ณัฐมน ใจกาศ กล่าวว่า ขอขอบคุณนายอำเภอวรญาณ ซึ่งปัจจุบันไม่ได้อยู่อำเภอศรีราชาแล้ว แต่ที่ผ่านมาท่าน ก็ได้ให้ความช่วยเหลือดูแลครอบครัวเรามาโดยตลอด โดยได้มอบเงินเป็นค่าใช้จ่ายทุกเดือน รวมถึงได้ฝากค่าใช้จ่ายในการผ่าตัดในครั้งนี้ไว้ที่โรงพยาบาลสมเด็จ ณ ศรีราชา ก่อนที่จะย้ายไปเป็นผู้ตรวจราชการ
“ต้องขอขอบคุณอีกครั้ง ที่ตนเองจะได้ มีโอกาสกลับมามองเห็นอีกครั้ง แม้จะไม่ชัดเจนเต็ม 100% แต่ก็จะพอช่วยเหลือตนเองได้ และสามารถดูแลลูกทั้งสองคนได้ เพราะที่ผ่านมาสงสารลูกทั้งสองมาก ที่ต้องเป็นภาระให้ลูก บ่อยครั้งที่ลูกต้องหยุดไปโรงเรียนเพราะต้องดูแลตนเอง ตอนนี้ก็ยังเป็นห่วงเรื่องค่าใช้จ่ายที่ลูกทั้งสองจะต้องใช้ในชีวิตประจำวัน เนื่องจากตนไม่ได้ทำงานจึงไม่มีรายได้เข้ามาดุแลลูกทั้งสองคน”
|
|
|