หน้าหลัก ข่าว คลิปข่าว ข่าวประชาสัมพันธ์ สังคมบ้านเรา แหล่งกิน-แหล่งเที่ยว ธุรกิจ-เศรษฐกิจ บุคคลเด่น ติดต่อเรา
องค์การบริหารส่วนจังหวัดชลบุรี

เทศบาลเมืองศรีราชา

เทศบาลนครแหลมฉบัง

เทศบาลนครเจ้าพระยาสุรศักดิ์
เทศบาลตำบลบางพระ

องค์การบริหารส่วนตำบลหนองขาม

 


จับขยะอิเล็กทรอนิกส์

   สนง.ตำรวจแห่งชาติ สนธิกำลัง กรมศุลฯและกรมโรงงานฯ ใช้มาตรการเข้มงวดกับผู้ลักลอบนำขยะพิษเข้าประเทศ อย่างรุนแรง ด้านกรมโรงงานอุตสาหกรรมเตรียมยกเครื่อง มาตรการ นำเข้ากากอิเล็กทรอนิกส์ จากต่างประเทศ หลังมีการใช้ช่องว่างของกฎหมายการนำเข้าสร้างความเสียหายต่อประเทศ พร้อมเสนอคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ ยกเลิกนำเข้าเพื่อขจัดปัญหาให้หมดสิ้นไป
วันนี้( 29 พ.ค. 2561) พล.ต.อ.วิระชัย ทรงเมตตา รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พร้อมด้วยนายบรรจง สุกรีฑา รองอธิบดีกรมโรงงานอุตสาหกรรม นายชูชัย อุดมโภชน์ ที่ปรึกษาด้านการพัฒนาระบบสิทธิประโยชน์ทางศุลกากร และนายยุทธนา พูลพิพัฒน์ ผู้อำนวยการสำนักงานศุลกากรท่าเรือแหลมฉบัง ได้ร่วมกันแถลงข่าวการจับกุมสินค้า ที่บริเวณท่าเรือ C 3 ท่าเรือแหลมฉบัง จ.ชลบุรี ซึ่งตรวจสอบสินค้าภายในตู้คอนเทนเนอร์ พบสำแดงว่าเป็น สแครปพลาสติก แต่เมื่อเอกซเรย์แล้วกับพบว่าไม่น่าใช่พลาสติกตามที่สำแดง เนื่องจากมีลักษณะคล้ายโลหะ จึงได้อายัดสินค้าดังกล่าวไว้เพื่อรอตรวจสอบ โดยใบขนสินค้าระบุเป็นของ บริษัทฮ่องเต้ พลาสติก จำกัด ตั้งอยู่ที่เลขที่ 7 หมู่ 15 ต.นาฤกษ์ อ.พนัสนิคม จ.ชลบุรี โดยมีโคต้านำเข้าเศษสแครปพลาสติกปี 2561 จำนวน 3,000 ตัน โดยต้นทางนำเข้ามาจากประเทศญี่ปุ่น
เมื่อเจ้าหน้าที่เปิดตู้คอนเทนเนอร์ พบเป็นเครื่องเกมเก่ามีสายไฟและแผลงวงจรอิเล็กทรอนิกส์ปะปนอยู่เป็นจำนวนมาก จึงถือว่าเป็นการสำแดงเท็จและกระทำผิดกฎหมาย ซึ่งถือว่าสินค้าดังกล่าวเป็นกากขยะอิเล็กทรอนิกส์ที่เป็นขยะอันตรายและห้ามนำเข้าประเทศ ดังนั้นผู้ที่นำเข้าดังกล่าวจึงมีความผิด คือ 1.ฐานสำแดงเท็จ อันเป็นความผิดตาม พ.ร.บ. ศุลกากร มาตรา 202 มีโทษปรับไม่เกิน 5แสนบาท 2. หลีกเลี่ยงหรือพยายามหลีกเลี่ยงการเสียภาษีอากรโดยเจตนาและฉ้อโกงภาษีของนั้นๆอันเป็นความผิดตาม พ.ร.บ. ศุลกากร มาตรา 243 มีโทษจำคุกไม่เกิน 10 ปี และปรับ 4 เท่าของราคา ซึ่งในครั้งนี้สำแดงราคา 70,000 กว่าบาท โดยจะถูกปรับ 3 แสนกว่าบาท 3. ผู้ใดนำเข้าซึ่งสินค้าต้องห้ามตามมาตรา 5 วงเล็บ 1 หรือฝ่าฝืนตามมาตรา 7 วรรค 1 ตาม พ.ร.บ.การส่งออกไปนอกและการนำเข้ามาในราชอาณาจักร ซึ่งสินค้า พ.ศ. 2522 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 10 ปี หรือปรับ ไม่เกิน 5 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และ 4. ผลิตนำเข้าส่งออกหรือมีไว้ในครอบครอง โดยนำเข้าซึ่งวัตถุอันตรายชนิดที่ 3 โดยไม่ได้รับอนุญาต จึงมีความผิดตาม พ.ร.บ. วัตถุอันตราย พ.ศ. 2535 มาตรา 23 วรรค 1 โทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี ปรับไม่เกิน 2 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ โดยจะดำเนินคดีทั้ง 4 ข้อหากับผู้ที่นำเข้าสินค้าดังกล่าว รวมถึงยึดสิ่งที่ใช้ในการขนส่ง และยานพาหนะนอกจากนั้นถ้านำเข้ามากี่ตู้ ก็ผิดตามจำนวนครั้ง โดยดำเนินคดีต่างกรรมต่างวาระ ซึ่ง 2 ตู้ ก็ต้องคูณ 2 โดยจะดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
พล.ต.อ.วิระชัย กล่าวต่อว่า หลังจากนี้ โดยทางกรมศุลกากรมีข้อตกลงร่วมกับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ว่า หากพบว่ามีการสำแดงเท็จในกรณีดังกล่าว ซึ่งไม่เพียงแต่ปรับ 2 หมื่นบาท และผลักดันออกนอกประเทศ แต่จะดำเนินคดีตามความผิดทั้ง 4 ข้อหาดังกล่าว ซึ่งมีโทษจำคุกถึง 10 ปี ปรับ 5 แสนบาท โดยจะตรวจสอบว่าบริษัทดังกล่าวเป็นของใคร ใครเป็นผู้ถือหุ้น และผู้มีอำนาจในบริษัททุกคนก็จะถูกดำเนินคดี เพื่อให้เข็ดหลาบและเกรงกลัวต่อกฎหมายต่อไป
สำหรับขยะอิเล็กทรอนิกส์ ดังกล่าว จาการตรวจสอบพบว่ามาจากหลายประเทศ เช่น ฮ่องกง สิงคโปร์ ญี่ปุ่น หรือประเทศที่เจริญแล้ว จะไม่มีการกำจัดขยะอิเล็กทรอนิกส์ในประเทศ ซึ่งประเทศญี่ปุ่นมีกฎหมายกำหนดไว้ว่า ผู้ที่ทำการผลิตสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ จะต้องรับผิดชอบในการทำลายซากและผลิลิตภัณฑ์นั้นๆ
โดยการตรวจสอบตู้สินค้าที่สำแดงเท็จในครั้งนี้ เป็นของบริษัทแอ็บโซลูท เพาเวอร์เวิลด์ จำกัด จำนวน 2 ตู้ 96 แพค จำนวน 44 ตัน มูลค่า 87,000 บาท โดยนำเข้ามาจากประเทศฮ่องกง ที่ บริษัท เคอร์รี่ สยามซีพอร์ต จำกัด และบริษัทที่ 2 นำเข้าโดยบริษัท ฮ่องเต้ พลาสติก จำกัด สำแดงเป็นเศษพลาสติก จำนวน 240 แพค น้ำหนัก 78 ตัน มูลค่า 235,500 บาท นำเข้าจากเขตเศรษฐกิจพิเศษฮ่องกง จำนวน 4 ตู้ ที่บริษัท เคอร์รี่ สยามซีพอร์ต จำกัด 4 ตู้ และ ที่ท่าเรือ C 3 ท่าเรือแหลมฉบัง 1 ตู้
ด้านนายบรรจง สุกรีฑา รองอธิบดีกรมโรงงานอุตสาหกรรม กล่าวว่า การตรวจครั้งนี้ เป็นการตรวจการอนุญาตนำเข้าเศษพลาสติก ซึ่งไม่อยู่ในรายการของอนุสัญญาบาร์เซล คือไม่ใช่ของเสียอันตราย แต่เป็น พ.ร.บ. ที่กระทรวงพาณิชย์รับผิดชอบ แต่เนื่องจากเศษพลาสติกเหล่านี้จะนำเข้าสู่โรงงานจึงมอบให้กรมโรงงานอุตสาหกรรม เป็นผู้พิจารณาอนุญาตโควตานำเข้า โดยอนุญาตอย่างถูกต้อง แต่การนำเข้าไปเป็นไปตามที่อนุญาต แต่นำซากอิเล็กทรอนิกส์เข้ามาแทน ซึ่งถือว่าเป็นการสำแดงเท็จ ขยะลิเล็กทรอนิกส์ต่างๆนั้น กรมโรงงานจะอนุญาตให้กับโรงงานที่มีใบอนุญาต รีไซเคิลเท่านั้น คือ ใบโรงงาน 106 และปริมาณนำเข้าจะสอดคล้องกับกำลังการผลิตของโรงงานนั้นๆ แต่ขณะนี้พบว่ามีช่องโหวบางส่วนที่ผู้นำเข้าสามารถสำแดงเท็จได้ ดังนั้นทางกรมโรงงานอุตสาหกรรม สำนักงานตำรวจแห่งชาติและกรมศุลกากร จะประชุมและหามาตรการในการกำกับดูแลในเรื่องนี้
นายบรรจง กล่าวอีกว่า สำหรับนโยบายในอนาคตเกี่ยวกับการนำเข้ากากอิเล็กทรอนิกส์ เนื่องจากอนุสัญญาบาร์เซล ในรายการอิเล็กทรอนิกส์อยู่ในการนั้นแล้ว แต่ถ้าประเทศไทยจะยกเลิกการนำเข้า ต้องนำเข้าสู่คณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ หากคณะกรรมการฯเห็นชอบก็จะแจ้งไปยังอนุสัญญาบาร์เซล ว่าขณะนี้คณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติของประเทศไทย ขอแบรนสินค้าดังกล่าวไม่ให้นำเข้า ก็จะถือว่าเป็นการยกเลิกเศษขยะดังกล่าวโดยสิ้นเชิง
ซึ่งหลังจากนี้ กระบวนการนำเข้าเศษวัสดุอันตรายหรือขยะอิเล็กทรอนิกส์ จากท่าเรือ โดยกรมศุลกากรอนุมัติแล้ว กระบวนการจากท่าเรือไปสู่โรงงานนั้น จะมีการออกกฎระเบียบการดูแลที่เข้มงวดและรอบครอบ เพื่อไม่ให้ผู้ประกอบการสามารถหลีกเลี่ยงออกไปได้ เพราะที่ผ่านมาไม่ได้กำกับดูแลอย่างเข้มงวด จึงเกิดปัญหาดังกล่าวขึ้น ดังนั้นจะต้องมีขบวนการที่เข้มงวดต่อไปหลังจากนี้

 

 


 

 
รพ สมเด็จฯ รับมอบใบรับรองมาตรฐานความปลอดภัยทางเทคโ..

วัดไร่กล้วยศรีราชา จ.ชลบุรี บวชอุปสมบท 122 รูป ถวา..

ทต.บางพระ งด แห่พญายม แต่ให้ส่งคำอธิษฐานผ่านออนไลน..

องค์การสวนสัตว์จัดงานวันคุ้มครองสัตว์ป่าลด ละ เลิก..

แซงไม่ได้หักกลับพุ่งอัดท้ายพ่วงที่จะแซงจนติดคารถ..

..

??.??????? ???????????????????????????????? ..

โฉมใหม่ ห้างโรบินสันศรีราชา..

พพ. ดึงโรงงานปรับตัวสู่เมืองอัจฉริยะ Smart City เ..

รพ.สมเด็จฯจัดซ้อมแผนระงับอัคคีภัยและช่วยเหลือผู้ป่..

เซ็นต์ MOU “โครงการรถบรรทุกสีขาว”..

รพ สมเด็จ ณ ศรีราชา อบรมให้ความรู้บุคลากรในโรงพยาบ..

 

 

———————————————————————————————————————————————————————————–––––––––
www.chonburitoday.com © All Rights reserved 2016