กรมทางหลวง สรุปผลมอเตอร์เวย์สายชลบุรี หนองคาย คาดแล้วเสร็จปี 67
กรมทางหลวงรับฟังเสียงชาวชลบุรี สรุปผลมอเตอร์เวย์สายชลบุรี – หนองคาย ช่วงท่าเรือแหลมฉบัง – ปราจีนบุรี ตอน 1 ส่วนที่ 2 เอพัฒนาโครงข่ายคมนาคมภาคตะวันออก เตรียมดำเนินการตามขั้นตอน คาดแล้วเสร็จปี 67
วันนี้ ( 17 ก.ย. 2561) นายนริศ ปาลกะวงศ์ ณ อยุธยา ปลัดอาวุโสอำเภอศรีราชา เป็นประธานในการเปิดการประชุมรับฟังความคิดเห็นสรุปผลการสำรวจและออกแบบโครงการ (การประชุมใหญ่ครั้งที่ 3 ) งานสำรวจและออกแบบทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง สายชลบุรี – หนองคาย ตอนชลบุรี (ท่าเรือแหลมฉบัง) – ปราจีนบุรี (ทางหลวงหมายเลข 359) ตอน 1 ส่วนที่ 2 เพื่อนำเสนอสรุปผลการศึกษาข้อมูลรายละเอียดการออกแบบ ทั้งรูปแบบการพัฒนาโครงการ รูปแบบการเชื่อมต่อกับโครงข่ายการคมนาคมสายหลัก รูปแบบที่พักริมทาง รูปแบบด่านเก็บค่าผ่านทาง รูปแบบการเชื่อมต่อด้านการคมนาคมในท้องถิ่น มาตรการป้องกันและลดผลกระทบสิ่งแวดล้อม และเปิดโอกาสให้ผู้เข้าประชุมได้แสดงความคิดเห็น เสนอแนะ โดยมีเข้าร่วมประชุมกว่า 150 คน ณ ห้องประชุมพัฒนา คอนเวนชั่น พัฒนากอล์ฟ แอนด์ สปอร์ต รีสอร์ท อำเภอศรีราชา จังหวัดชลบุรี
สำหรับโครงการนี้เริ่มต้นจุดตัดทางหลวงหมายเลข 331 อำเภอศรีราชา จังหวัดชลบุรี ไปสิ้นสุดโครงการบริเวณจุดตัดทางหลวงหมายเลข 3340 อำเภอบ่อทอง จังหวัดชลบุรี รวมระยะทางประมาณ 44.5 กิโลเมตร ครอบคลุมพื้นที่จังหวัดชลบุรี 4 อำเภอ 8 ตำบล 3 ชุมชน และ 19 หมู่บ้าน
ในวันนี้นำเสนอรูปแบบการพัฒนาทางพิเศษของโครงการ ออกแบบเป็นถนนขนาด 6 ช่องการจราจร รูปแบบจุดพักรถ กำหนดให้มีจุดพักรถ 1 แห่งที่อำเภอบ้านบึง จุดจอดรถฉุกเฉินทุก ๆ 4-6 กิโลเมตร ด่านเก็บค่าผ่านทางกำหนดให้มี 2 แห่งได้แก่ ด่านหนองใหญ่และด่านบ่อทองรวมทั้งยังออกแบบการเชื่อต่อการคมนาคมในท้องถิ่น ให้เป็นทางข้าม ทางลอดและทางบริการให้กับประชาชนที่อาศัยในบริเวณเส้นทางของโครงการ ส่วนทางแยกต่างระดับเพื่อเชื่อมต่อกับโครงข่ายการคมนาคมสายหลัก มี 2 จุดได้แก่ ทางแยกต่างระดับหนองใหญ่ และทางต่างระดับบ่อทอง เท่านั้น
ด้านนายบุญธรรม ไกรศรศรี วิศวกรโยธาชำนาญพิเศษ กรมทางหลวง เปิดเผยว่า โครงการนี้มีประโยชน์กับคนในพื้นที่ชลบุรี เนื่องจากมีโรงงานอุตสาหกรรม ทำให้เกิดการขนส่งคล่องตัว โดยระยะเวลาดำเนินการอยู่ในช่วงออกแบบรายละเอียด ซึ่งเมื่อเสร็จจะเข้าสู่ขั้นตอนวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อม แล้วจะดำเนินการก่อสร้าง คาดว่าถ้าเป็นไปตามนี้ ก็จะเปิดให้ประชาชนใช้บริการได้ในปี 2567 ส่วนค่าเวนคืนที่ชาวบ้านหลายคนเป็นกังวลทางคณะกรรมการจะตั้งราคาให้ตามหลักเกณฑ์การซื้อขายจริง ซึ่งราคาจะยุติธรรมกับชาวบ้านที่ถูกเวนคืน
ซึ่งเมื่อแล้วเสร็จเส้นทางนี้จะมีความสำคัญสายหนึ่งของประเทศ ที่จะเป็นเส้นทางคมนาคมระหว่างภาคตะวันออกกับภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ที่เชื่อมต่อแหล่งผลิตและแหล่งวัตถุดิบเข้าด้วยกัน จะได้เดินทางขนส่งได้อย่างสะดวกรวดเร็วขึ้น
สัมภาษณ์ นายบุญธรรม ไกรศรศรี วิศวกรโยธาชำนาญพิเศษ กรมทางหลวง
|
|
|