ปิดทองสรีระสังขาร “หลวงพ่อทอง” พระเกจิดังเมืองศรีราชา
แน่นศาลา...ปิดทองสรีระสังขาร “หลวงพ่อทอง” อดีตเจ้าอาวาสวัดไร่กล้วย พระเกจิดังเมืองศรีราชา ในวันมรณภาพ ครบรอบ 4 ปี โดยสังขารไม่เน่าไม่เปื่อย สร้างความตะลึงให้กับศิษย์ยานุศิษย์และประชาชนที่มาร่วมงานเป็นอย่างมาก
วันนี้(18 ส.ค. 2562) พระครูมธุรสธรรมภาณ เจ้าอาวาสรังษีสุทธาวาส หรือ วัดไร่กล้วย หมู่2 ต.สุรศักดิ์ อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี พร้อมคณะศิษย์ยานุศิษย์พระครูสุทธิคุณรังษี (หลวงพ่อทอง) และชาวบ้านชุมชนไร่กล้วยหรือบุคคลทั่วไปที่รู้จักและนิยมเรียกท่านว่า “หลวงพ่อทอง” ซึ่งได้มรณภาพไปตั้งแต่เมื่อ สิงหาคม 2558 ได้ร่วมกันจัดงานวันมรณภาพ 4 ปี “หลวงพ่อทอง” อดีตเจ้าอาวาสวัดไร่กล้วย พระเกจิดังเมืองศรีราชา ขึ้น พร้อมทั้งนำร่างของท่านออกมาจากโรงแก้วแล้วมาปิดทองสรีระสังขาร “หลวงพ่อทอง” ใหม่ทั้งองค์ โดยมี ดร.ฉวีวรรณ คำพา นายกสมาคมส่งเสริมการเลี้ยงไก่ฯ.และ ประธานกรรมการบริษัทในเครือฉวีวรรณกรุ๊ป เป็นประธานในการปิดทองสรีระสังขารของหลวงพ่อทอง ซึ่งมีศิษย์ยานุศิษย์และประชาชนจำนวนมากเข้าร่วมปิดทองสรีระของ “หลวงพ่อทอง” ในวันนี้เป็นจำนวนมาก หลังจากนั้นก็ร่วมกันนำสรีระสังขารที่ไม่เน่าเปื่อย “หลวงพ่อทอง” ที่นำมาปิดทองในครั้งนี้บรรจุในโลงแก้วไม้สักใหม่ ก่อนจะร่วมกันนำสรีระสังขาร “หลวงปู่ทอง” ขึ้นตั้งไว้ศาลาภายในวัดไร่กล้วยศรีราชา
สำหรับ “หลวงพ่อทอง” พระเกจิชื่อดังเมืองศรีราชา นั้น ได้มรณภาพมาแล้ว 4 ปี แต่สังขารกับไม่เน่าเปื่อย ทางญาติโยมจึงได้นำร่างของท่านออกมาจากโลงแก้ว แล้วทำความสะอาดใหม่พร้อมกับเปิดโอกาสให้พุทธศาสนิกชนและลูกศิษย์ลูกหาได้มากราบมนัสการและปิดทองสรีระสังขารของ “หลวงพ่อทอง” พร้อมเปลี่ยนจีวร อังสะ สบง ให้ใหม่ก่อนนำเข้าบรรจุโลงแก้ว ไม้สัก ตั้งไว้บนศาลาเพื่อให้ศิษย์ยานุศิษย์และประชาชนที่มาได้กราบไหว้สักการะขอพรกัน
พระครูสุทธิคุณรังษี “หลวงพ่อทอง ปญญาทีโป” ท่านเกิดเมื่อวันที่ 4 พฤษภาคม พ.ศ.2465 ปีจอ บิดาชื่อ นายสี ก้านบัว มารดาชื่อ นางไผ่ ก้านบัว ท่านเป็นชาวอำเภอพนัสนิคม ต.หนองปรือ อ.พนัสนิคม จ.ชลบุรี มีพี่น้องร่วมบิดามารดาทั้งหมด 7 คน หลวงพ่อทอง เป็นบุตรคนที่ 4 ในช่วงชีวิตที่ท่านครองเพศฆราวาสนั้นได้ช่วยบิดา-มารดา ประกอบสัมมาอาชีวะตามประสาสุจริตชนทั่วไป
ต่อมาได้เข้าสมัครรับราชการทหารเป็นเวลากว่า 2 ปี ภายหลังที่ท่านใช้ชีวิตเยี่ยงฆราวาสมาอย่างโชกโชนแล้ว หลวงปู่ท่านจึงคิดจะบวชเพื่อแสวงหาสัจธรรมและตอนแทนพระคุณบุพการี ท่านจึงตัดสินใจเข้าอุปสมบทเป็นพระภิกษุในบวรพุทธศาสนา เมื่อวันที่ 11 พฤษภาคม พ.ศ.2489 ณ พัธสีมา วัดเนินสังข์สกฤษฏาราม ตำบลวัดหลวง อำเภอพนัสนิคม จังหวัดชลบุรี โดยมีพระอุปัชฌาย์ คือ พระครูเจียม วัดหลวงพรหมาวาส พระกรรมวาจาจารย์ คือพระมหาเที่ยง วัดกลางทุมมาวาส พระอนุสาวนาจารย์ คือพระอธิการเอียง วัดไร่หลักทอง ได้รับยาว่า “ปัญญาทีโป” แปลว่า ผู้มีปัญญาดุจแสงสว่างแห่งดวงประทีป
การสร้างวัดไร่กล้วยนั้นครั้งแรกเริ่มขึ้นเมื่อปี พ.ศ.2488 ก่อนหลวงพ่อทอง บรรพชา 1 พรรษา ชาวบ้านนิมนต์อาจารย์มานิตย์ (พระพี่ชายของหลวงปู่ทอง) มาเป็นเจ้าอาวาส เพื่อมาร่วมสร้างวัดในหมู่บ้านไร่กล้วยด้วยกัน และในปีต่อมาหลวงพ่อทอง ปญญาทีโป ท่านจึงอุปสมบทที่อำเภอพนัสนิคม และหลังจากนั้นได้ติดตามพระพี่ชายมาช่วยสร้างวัดไร่กล้วย โดยร่วมกับชาวบ้านอีกแรงหนึ่ง
และในปี พ.ศ.2491 ได้สร้างโบสถ์ไม้สำเร็จเป็นหลังแรก จวบจน พ.ศ.2494 ท่านอาจารย์นิด ลาสิกขาบทไป คงเหลือไว้แต่ หลวงปู่ทอง ท่านจึงเป็นผู้รักษาการเจ้าอาวาส ด้วยหลวงพ่อทอง เป็นพระที่มีความเมตตาต่อผู้ตกทุกข์ได้ยาก จนเป็นที่เลื่องลือ เลื่อมใส จึงเกิดศรัทธาจากชาวบ้านในบริเวณนั้น และยังแผ่บารมี คุณธรรม ออกไปยังบริเวณพื้นที่ใกล้เคียง ไม่ว่าจะตกทุกข์ได้ยาก ลำบากแค่ไหนเดินทางมาหา หลวงพ่อทอง ท่านก็จะมีเมตตาต่อผู้มาพบท่านอยู่เสมอมิได้ขาด ไม่ว่าจะยากดีมีจนอย่างไร ท่านก็ให้การช่วยเหลือมาตลอด จนในปี พ.ศ.2496 หลวงพ่อทอง จึงได้รับการแต่งตั้งเป็นเจ้าอาวาส สร้างความปิติให้กับลูกศิษย์และชาวบ้านโดยทั่วไป
และในปี พ.ศ.2498 หลวงพ่อทอง ได้สร้างโรงเรียนวัดไร่กล้วย ให้กับชาวบ้านได้ใช้ในการศึกษาเล่าเรียนของบุตรหลาน จากนั้นในปี พ.ศ.2501 ชาวบ้านก็ได้ช่วย หลวงพ่อทอง สร้างศาลาการเปรียญไม้จนสำเร็จ ในปี พ.ศ.2504 และ ในปี พ.ศ.2516 หลวงพ่อทอง ได้รับพระราชทานสมณะศักดิ์เป็นพระครูสัญญาบัตร เจ้าอาวาสวัดราษฎร์ชั้นตรี ราชทินนาม ที่พระครูสุทธิคุณรังษี ในปี พ.ศ.2522 ได้รับพระราชทานสมณะศักดิ์เป็นพระครูสัญญาบัตร เจ้าอาวาสวัดราษฎร์ชั้นโท
ต่อมาในปี พ.ศ.2530 ได้รับพระราชทานสมณะศักดิ์เป็นพระครูสัญญาบัตร เจ้าอาวาสวัดราษฎร์ชั้นเอก ในปี พ.ศ.2555 ได้รับพระราชทานเลื่อนสมณะศักดิ์เป็นเทียบผู้ช่วยเจ้าอาวาสพระอารามหลวงชั้นเอก หลังจากนั้น หลวงพ่อทอง ก็เริ่มมีอาการอาพาธเป็นโรคปอดติดเชื้อ ต้องเข้าออกโรงพยาบาลอยู่บ่อยๆ จวบจนวันที่ 21 เดือนสิงหาคม พ.ศ.2558 เวลาประมาณ 11.10 น. หลวงพ่อทอง ปัญญาทีโป ได้ถึงแก่มรณภาพ ณ โรงพยาบาลสมเด็จพระบรมราชเทวี ณ ศรีราชา ด้วยอาการปอดติดเชื้อ สิริอายุ 94 ปี 68 พรรษา การมรณภาพของ “หลวงพ่อทอง” นำมาซึ่งความโศกเศร้าเสียใจแก่ศิษยานุศิษย์เป็นอย่างมาก
|
|
|