พลังสตรีศรีราชา มอบเงินสมทบทุนสร้างอาคารศรีสวรินทิรานุสรณ์ 150 ปีโรงพยาบาลสมเด็จฯ
กลุ่มพลังสตรีศรีราชา นำเงินสด 1 ล้านบาท มามอบให้โรงพยาบาล เพื่อสมทบทุนสร้างอาคารศรีสวรินทิรานุสรณ์ ๑๕o ปี โรงพยาบาลสมเด็จพระบรมราชเทวี ณ ศรีราชา สภากาชาดไทย
ที่ อาคารศรีสังวาลย์ โรงพยาบาลสมเด็จพระบรมราชเทวี ณ ศรีราชา จังหวัดชลบุรี คุณนงนุช เจียหลิม และครอบครัว เจ้าของโรงน้ำแข็งรายใหญ่ในพื้นที่อำเภอศรีราชา และเป็นสมาชิกพลังสตรีศรีราชา ได้นำเงินสดจำนวน 1 ล้านบาท เดินทางมาพร้อมกับท่านฉัตรชัย ทิมกระจ่าง ประธานสภาเทศบาลเมืองเมืองศรีราชา และคุณสมพิศ ทิมกระจ่าง เพื่อร่วมมอบเงินให้แก่ โรงพยาบาลสมเด็จพระบรมราชเทวี ณ ศรีราชา ให้การสมทบกองทุนผ้าป่าเพื่อนำไปสร้างอาคารศรีสวรินทิรานุสรณ์ ๑๕o ปี โรงพยาบาลสมเด็จพระบรมราชเทวี ณ ศรีราชา โดยมีนายแพทย์สมยศ โล่ห์จินดาพงศ์ รองผู้อำนวยการโรงพยาบาลสมเด็จพระบรมราชเทวี ณ ศรีราชา เป็นตัวแทนโรงพยาบาลในการรับมอบเงินในครั้งนี้
ปัจจุบันโรงพยาบาลสมเด็จพระบรมราชเทวี ณ ศรีราชา สภากาชาดไทย ถือว่าเป็นโรงพยาบาลต้นๆในพื้นที่อำเภอศรีราชา ที่ตั้งอยู่ท่ามกลางแห่งนิคมอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ เช่น โรงงานอุตสาหกรรมหลายโรงงาน ,ท่าเรือน้ำลึกเพื่อขนส่งสินค้า ,สนามบินอีก 2 แห่ง และยังเป็นศูนย์กลางการท่องเที่ยวของภาคตะวันออก จึงทำให้ประชากรที่เข้ามาทำงานเพิ่มจำนวนมากขึ้น และปัญหาที่ตามมาในด้านต่างๆ ที่ทางโรงพยาบาลต้องดูแล เช่น ปัญหาด้านสุขภาพจากมลภาวะสิ่งแวดล้อม และอุบัติเหตุจากการทำงาน หรืออุบัติเหตุการจราจร ที่จะมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ทางโรงพยาบาลสมเด็จฯ จึงได้ตระหนักและสร้างอาคารศรีสวรินทิรานุสรณ์ ๑๕o ปี โรงพยาบาลสมเด็จพระบรมราชเทวี ณ ศรีราชา ขึ้นมาเพื่อรองรับและให้เพียงพอต่อผู้ป่วยหรือผู้ประสบเหตุที่เข้ามารับการรักษา
สำหรับ ศูนย์รักษาพยาบาลรวมเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระพันวัสสาอัยยิกาเจ้า 150 ปี หรือ “อาคารศรีสวรินทิรานุสรณ์ 150 ปี” เป็นส่วนหนึ่งของการพัฒนาโรงพยาบาลให้ทันสมัย เพื่อสามารถให้บริการประชาชนและผู้ด้อยโอกาสได้อย่างมีประสิทธิภาพ รวมทั้งมีความพร้อมในการรับสถานการณ์อุบัติเหตุ อุบัติภัย และสาธารณภัยต่างๆ โดยมีลักษณะเป็นอาคารศูนย์รักษาพยาบาลขนาด 26 ชั้น โดยใช้งบประมาณในการก่อสร้างนับพันล้านบาท ซึ่งได้รับเงินสนับสนุนจากรัฐบาลส่วนหนึ่ง และอีกส่วนหนึ่งจากผู้มีจิตศรัทธามาร่วมบริจาค
ซึ่งหากเสร็จสิ้นแล้วโรงพยาบาลแห่งนี้จะมีมาตรฐานที่ดีมาก และเป็นศูนย์กลางในการการให้บริการทางการแพทย์ในภาคตะวันออก ทั้งยังมีความคล่องตัวและมีศักยภาพในการให้บริการแก่ผู้เจ็บป่วย ทั้งในสถานการณ์ปกติและสถานการณ์ฉุกเฉินอีกด้วย
|
|
|