ชาวนครแหลมฉบัง ร่วมมอบเงิน จำนวน 410,000 บาท ผ่านผู้ว่าฯกำแพงเพชร เพื่อช่วยเหลือ“ครูวิภา” ปลดหนี้ กยศ.หลังเซ็นค้ำประกันกู้เงินให้ลูกศิษย์และถูกฟ้องร้อง ย้ำบอร์ด กยศ. ต้องพิจารณาการกู้และการทวงเงินใหม่
วันนี้(6 ส.ค. 2561) ที่ ห้องประชุมเมืองท่า1 ชั้น4 เทศบาลนครแหลมฉบัง จังหวัดชลบุรี อดีตนายกบุญเลิศ น้อมศิลป์ ประธานที่ปรึกษาคณะผู้บริหาร พร้อมด้วย นายกฯ จินดา ถนอมรอด นายกเทศมนตรีนครแหลมฉบัง คณะผู้บริหาร สมาชิกสภาเทศบาล ผู้ทรงคุณวุฒิ ปลัดเทศบาล รองปลัดเทศบาล และหัวหน้าส่วนราชการ ร่วมกันมอบเงินผ่านนายธัชชัย สีสุวรรณ ผู้ว่าราชการจังหวัดกำแพงเพชรพร้อมคณะ เพื่อช่วยเหลือนางวิภา บานเย็น ผอ.รร.บ้านห้วยน้อย ต.แม่ลาด อ.คลองขลุง จ.กำแพงเพชร ที่ได้ไปเซ็นค้ำประกันเงินกู้กองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา(กยศ. )ให้กับลูกศิษย์ และไม่ยอมใช้หนี้ กยศ. จนถูกฟ้องยึดทรัพย์สินต่างๆ โดยคณะผู้บริหารเทศบาลนครแหลมฉบัง สมาชิกสภาเทศบาล และที่ปรึกษานายกเทศมนตรีนครแหลมฉบัง ได้ร่วมกันมอบเงินช่วยเหลือครูวิภา เป็นเงินทั้งสิ้น 410,000 บาท ผ่านนายธัชชัย สีสุวรรณ ผู้ว่าราชการจังหวัดกำแพงเพชร เพื่อนำไปมอบต่อให้กับครูวิภา บานเย็น นำเงินจำนวนดังกล่าวไปบริหารจัดการต่อ โดยมีนายมานพ ปัทมาลัย นายกเทศมนตรีตำบลท่ามะเขือ จังหวัดกำแพงเพชร พร้อมคณะ ร่วมเดินทางมารับมอบและเป็นสักขีพยานในครั้งนี้
นายบุญเลิศ กล่าวว่า สาเหตุเนื่องจากตนได้ติดตามข่าวสาร กรณีครูวิภา บานเย็น ได้ไปค้ำประกันให้กับลูกศิษย์ ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2541 ระยะเวลาผ่านมา 20 ปีแล้ว แต่ลูกศิษย์ที่กู้ยืมเงินไปไม่นำเงินไปใช้หนี้ที่กู้มา ทำให้ กยศ. ดำเนินคดีกับผู้คำประกันเพื่อให้ชดใช้ค่าเสียหาย ตนในฐานะชาวแหลมฉบัง เห็นความเสียสละของครูวิภา ที่มีต่อลูกศิษย์ จึงเกิดความสงสารและได้หาทางช่วยเหลือ ทั้งๆที่ไม่เคยรู้จักกับครูวิภา มาก่อนแต่อย่างไร ดังนั้นตนได้ประสานไปยังนายมานพ ปัทมาลัย นายกเทศมนตรีตำบลบ้านมะเขือ แล้วนายกฯทต.บ้านมะเขือ ก็ได้แจ้งเรื่องดังกล่าวให้ นายธัชชัย สีสุวรรณ ผู้ว่าราชการจังหวัดกำแพงเพชร รับทราบในการ เห็นความตั้งใจของชาวนครแหลมฉบังที่จะช่วยเหลือ นายธัชชัย สีสุวรรณ ผู้ว่าราชการจังหวัดกำแพงเพชร จึงเดินทางมารับมอบเงินดังกล่าวแทนครูวิภา ที่ติดภารกิจต้องเข้าพบแพทย์และไม่สามารถมาได้
ด้านนายธัชชัย สีสุวรรณ ผู้ว่าราชการจังหวัดกำแพงเพชร กล่าวว่า ตนให้ฐานะตัวแทนชาวจังหวัดกำแพงเพชร ต้องขอขอบคุณชาวนครแหลมฉบังทุกๆคน ที่ให้ความช่วยเหลือครูวิภา ที่ได้รับความเดือดร้อน หลังถูก กยศ. ยึดทรัพย์สินต่างๆ ที่ไปเซ็นค้ำประกันแก่ลูกศิษย์ด้วย พร้อมขอฝากถึงคณะผู้บริหาร กยศ. ถึงหลักการในการกู้ยืมเงินนั้น โดยคุณครูที่กู้ยืมไม่ควรเกิน 5 คน และผู้กู้ต้องเป็นผู้ใช้หนี้ ดังนั้นบอร์ดของ กยศ. ต้องพิจารณาในรูปแบบการดำเนินคดี ซึ่งควรจะต้องดำเนินการกับผู้กู้ก่อน ก่อนจะมาดำเนินคดีกับผู้ค้ำประกัน
นายธัชชัย กล่าวต่อว่า สำหรับเงินจำนวนดังกล่าว ทางจังหวัดได้ตั้งคณะกรรมการ โดยมอบหมายให้รองผู้ว่าราชการจังหวัดกำแพงเพชร พิจารณาการใช้เงินดังกล่าว ล่าสุดมีการฟ้องร้องผู้กู้เงินดังกล่าวไปจำนวน 12 ราย และขณะนี้อยู่ในขั้นตอนการบังคับคดีแล้ว และพร้อมให้คณะกรรมการติดตามผู้กู้ทั้ง 12 ราย โดยใครสามารถจ่ายเงินดังกล่าวคืนได้ก็ให้นำมาจ่าย แต่รายที่ยากไร้หรือไม่มีเงินมาจ่ายคืนซึ่งหากตรวจสอบแล้วเป็นจริงก็จะให้นำเงินในส่วนนี้ไปจ่าย ซึ่งเงินจำนวน 410,000 บาท ไม่ได้ตั้งเป็นกองทุน แต่เป็นเงินของครูวิภาตามสิทธิและเจตนารมณ์ของชาวแหลมฉบังที่มอบช่วยเหลือในครั้งนี้