
|
ดร.ไข่มุก เหล่าพิพัฒนา ได้รับการพิจารณาจากคณะผู้บริหารเซนต์ปอลเดอชาร์ตร ให้เป็น 1 ใน 36 ศิษย์คอนแวนต์ผู้ทำคุณประโยชน์ต่อสังคมดีเด่น ให้เข้ารับรางวัลโล่เกียรติคุณ “Be All to All ”
เมื่อเร็วๆ นี้ คณะเซนต์ปอลเดอชาร์ตร ซึ่งมีบทบาทสำคัญในการช่วยเหลือสังคมและทำประโยชน์ในด้านต่างๆ ในประเทศไทยมานานถึง 120 ปี โดยเฉพาะการให้ความรู้และการศึกษาในโรงเรียนที่ลงท้ายด้วยคอนแวนต์ อาทิ เซนต์ปอลคอนแวนต์ ,เซนโยเซฟคอนแวนต์, สันตราครูซคอนแวน ฯลฯ ในประเทศไทยที่มีทั้งสิ้น22 โรงเรียน ได้ให้มีพิธีมอบรางวัลให้กับศิษย์คอนแวนต์ผู้ทำคุณประโยชน์ต่อสังคมดีเด่น ให้เข้ารับรางวัลโล่เกียรติคุณ “Be All to All ” ซึ่งเป็นรางวัลพิเศษสำหรับบุคลากรที่ช่วยเหลืองานของคณะฯ โดยพิจารณาศิษย์เก่าและบุคลากรจาก 22 โรงเรียน ให้ได้รับรางวัลเพียง 36 คนเท่านั้น
โดย ดร.ไข่มุก เหล่าพิพัฒนา ซึ่งได้รับการเสนอชื่อโดยท่านอธิการเซนปอลคอนแวนต์ศรีราชา ให้เข้ารับการพิจารณาจากคณะกรรมการที่ประกอบด้วย มะแม,ซิสเตอร์และอธิการของทุกโรงเรียน รวมทั้งผู้ทรงคุณวุฒิ ที่มีขั้นตอนในการพิจารณาที่หลากหลายรวมทั้งการพิสูจน์จากคนรอบข้างและผลสัมฤทธิ์ในชีวิตของผู้ที่จะได้รับรางวัลว่ามีความเหมาะสมเพียงใด ได้กลายเป็น 1 ใน 36 ศิษย์เก่าที่มาจากทุกสาขาอาชีพ ที่ได้รับพิจารณาให้เข้ารับรางวัลดังกล่าว เนื่องจากได้รับการยอมรับจากสังคมแล้วว่า เป็นผู้เสียสละและทุ่มเทชีวิตในการช่วยเหลือผู้อื่นโดยไม่หวังสิ่งตอบแทน และยังเป็นผู้ที่ทำความดีจนกลายเป็นวิถีชีวิต
ดร.ไข่มุก บอกอีกรางวัล “Be All to All ” มีความแตกต่างจากรางวัลอื่นๆ ที่เคยได้รับมาอย่างหลากหลายตรงที่รางวัลนี้จะพิจารณาให้กับผู้ที่ทำดีจนกลายเป็นวิถีโดยไม่หวังผลตอบแทน ,ขณะที่รางวัลคนดีศรีเมืองชล เป็นรางวัลที่มอบให้กับผู้ที่ทำความดีใน จ.ชลบุรี ,ส่วนรางวัลพระราชทานเสาเสมาธรรมจักร เป็นรางวัลระดับประเทศที่ได้รับพระราชทานจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๙ ซึ่งเป็นรางวัลสำหรับผู้ทำคุณประโยชน์ด้านสังคม ศาสนาและประเทศชาติ และยังไม่นำร่วมรางวัลแห่งเกียรติยศและความภาคภูมิอีกหลายรางวัลที่มีรูปแบบการพิจารณาที่แตกต่างกันไป
“ตั้งแต่คอนแวนต์ตั้งมา 120 ปีในประเทศไทย ไม่เคยมีการให้รางวัลในลักษณะนี้ และครั้งนี้ถือเป็นครั้งแรกจึงทำให้เกิดความภูมิใจมาก เพราะไม่เคยคิดว่าเราจะได้รับการพิจารณา เนื่องจากเราเองก็เป็นนักเรียนโรงเรียนเซนปอลคอนแวนต์ และต่อมาก็เป็นศิษย์เก่า เมื่อมีลูกก็พามาเข้าเรียน จากนั้นก็เป็นนายกสมาคมผู้ปกครองและครูนานกว่า 10 ปี เพราะฉะนั้นเราจึงเห็นเด็กทุกคนเป็นลูก แต่รางวัลที่ได้ในครั้งนี้มีมิติมากกกว่านั้นคือคุณต้องไม่ทำดีแค่เพียงในองค์กร แต่ต้องทำดีกับสังคมและประเทศชาติ ที่สำคัญคือทำดีในทุกวันและเวลา รวมทั้งให้การช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ในฐานะที่เป็นมนุษย์เหมือนเรา”
และแม้ที่ผ่านมาจะเคยได้รับรางวัลแห่งเกียรติยศที่มีความหลากหลาย อาทิ รางวัลคนดีศรีเมืองชล ที่มอบให้กับผู้ที่ทำความดีใน จ.ชลบุรี , รางวัลพระราชทานเสาเสมาธรรมจักร รางวัลระดับประเทศที่ได้รับพระราชทานจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๙ สำหรับผู้ทำคุณประโยชน์ด้านสังคม ศาสนาและประเทศชาติฯลฯ แต่รางวัลที่ได้รับล่าสุดถือว่าเป็นเรื่องอัศจรรย์ เนื่องจากศิษย์คอนแวนต์ในช่วง 120 ปีที่ผ่านมามีผู้คนในหลายชั่วอายุคนที่ส่งผ่านความรักและความดีให้กัน ทำให้ในวันที่ทราบว่าผ่านการพิจารณา น้ำตาแห่งความปิติได้ซึมออกมาโดยไม่รู้ตัว
“จากบทบาทหน้าที่ทั้งการเป็นอาจารย์แม่ของลูกศิษย์ในหลายมหาวิทยาลัย และการเป็นวิทยากรให้กับหลายองค์กร ทำให้มีโอกาสที่จะมอบกำลังใจ สร้างการแบ่งปันและการดูแลผู้คนด้วยความเอื้อเฟื้อ โดยเฉพาะการช่วยเหลือเด็กยากไร้และเด็กผู้กระทำความผิด รวมทั้งสตรี ,ผู้สูงวัยและผู้ที่ต้องได้รับการเยียวยาทางจิตใจทำให้ได้เห็นความยากง่ายในการเข้าไปช่วยเหลือบุคคลแต่ละกลุ่มที่มีความแตกต่างกัน”
และจากแนวคิดที่ได้จากการทำงานเพื่อเยาวชน สังคมและศาสนา ทำให้ในวันนี้ ดร.ไข่มุก มีแนวคิดที่อยากเผยแพร่สู่ท่านผู้อ่านเพื่อสร้างพลังใจในการทำงานเพื่อผู้อื่นคือ
“ หากเราทุ่มเทชีวิตในการแสวงหาทรัพย์สินเงินทองโดยไม่สนใจรอบข้าง เราจะเหนื่อยมาก ...หากเราทุ่มเทชีวิตในการแสวงหาอำนาจ เกียรติยศและชื่อเสียง เราจะอ่อนล้าเพราะการแข่งขัน ...แต่หากเราสร้างสมดุลในชีวิตโดยการทำความดีทุกวัน มีความสุขจากการแบ่งปันและเอื้ออาทรคนรอบข้าง เราจะพบเจอความร่มเย็นของชีวิตอย่างแท้จริง ”
|