
|
ผู้ช่วยผู้อำนวยการท่าเรือแหลมฉบัง ชี้เส้นทางการเดินเรือ ไทเกอร์ มีโอกาสน้อยมากที่จะเป็นสาเหตุชน “วาฬบลูด้า” เสียชีวิต ทช.ชี้แนวทางเดียวกันยัน “วาฬบรูด้า” ที่ตายครั้งนี้ ไม่ใช่อยู่ในตระกูล 50 ตัว ของประเทศไทย หลังพบหลักฐานหลายอย่าง คาดอีก 1 สัปดาห์ ชัดเจน.....
วันนี้(26 พฤศจิกายน 2559) นายยุทธนา โมกขาว ผู้ช่วยผู้อำนวยการท่าเรือแหลมฉบัง จังหวัดชลบุรี พร้อมด้วย นายทองปลิว นุ่มแนบ เจ้าหน้าที่ควบคุมการจราจร ศูนย์ควบคุมการจราจรและความปลอดภัยทางทะเล (ศรีราชา VTS) นำผู้สื่อข่าวชมเส้นทางการเดินเรือของเรือสินค้าไทเกอร์ พร้อมเปิดเผยว่า เรือสินค้าไทเกอร์ ออกเดินทางจากท่าเรือเซี่ยงไฮ้ สาธารณรัฐประชาชนจีน เมื่อวันที่ 17 พฤศจิกายน มาถึงท่าเรือแหลมฉบัง ในเช้าวันที่ 23 พฤศจิกายน โดยไม่มีการทอดสมอเรือเลย รวมระยะทางทั้งสิ้นกว่า 2,112 ไมล์ทะเล.....
โดยเรือสินค้าไทเกอร์ ใช้เส้นทางผ่านประเทศไต้หวัน ผ่านด้านตะวันออกของประเทศเวียดนาม ก่อนผ่านแหลมยวน ประเทศเวียดนาม และเข้าสู่น่านน้ำไทย จนถึงท่าเรือแหลมฉบัง ใช้ความเร็วไม่เกิน 14 น๊อต ใช้เวลาการเดินเรือทั้งสิ้นประมาณ 6 วัน ซึ่งจากระยะทางและเวลาการเดินเรือนี้ มีความเป็นไปได้น้อยมากของการที่เรือไทเกอร์นี้ที่จะชนวาฬบลูด้าตัวนี้จนเสียชีวิต หรือแทบไม่มีความเป็นไปได้เลย ถ้าผลชันสูตรออกมาว่า วาฬบลูด้าตัวนี้เสียชีวิตมาแล้วประมาณ 7 วัน แสดงให้เห็นว่าวาฬบลูด้าตัวนี้เสียชีวิตก่อนที่เรือไทเกอร์จะลากซากมาจนถึงท่าเรือแหลมฉบัง ซึ่งก็ไม่รู้ว่าเหตุเกิดบริเวณจุดไหนของเส้นทางการเดินเรือ แต่ก็อาจมีความเป็นไปได้ว่า มีเรือลำอื่นชน แต่ตามสัญชาตญาณของสัตว์ใต้น้ำจะไม่ว่ายเข้าใกล้เรือ เนื่องจากเสียงเครื่องยนต์ของเรือจะดังมากเมื่ออยู่ใต้น้ำ หรือ วาฬบลูด้า ตัวนี้อาจจะป่วยหรือเสียชีวิตโดยธรรมชาติแล้วไม่อาจเคลื่อนไหวได้ จนทำให้เรือลำอื่นชนจนเสียชีวิต แล้วเรือไทเกอร์ก็ไปลากซากวาฬบลูด้าเข้ามาที่ท่าเรือแหลมฉบังก็อาจเป็นไปได้…..
ซึ่งก็ไปสอดคล้องกับ แหล่งข่าวระดับสูง จากกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง (ทช.) กล่าวถึง วาฬบรูด้า ที่เสียชีวิตนั้น คาดว่าจะเป็นวาฬจากทะเลอื่นที่ไม่ใช่ในอ่าวไทย หรือในประเทศไทย ที่อยู่ในตระกูล 50 ตัวของไทย เนื่องจากการตรวจสอบพบเหาฉลามที่ติดมากับวาฬบรูด้า นั้น ไม่เคยพบเจอในอ่าวไทยหรือประเทศไทย ดังนั้นจึงมั่นใจในระดับหนึ่งว่าไม่ใช่วาฬในประเทศไทย แต่อย่างไรก็ตามจะต้องนำดีเอ็นเอจากกระดูกที่หัก ไปตรวจวิเคราะห์ เพื่อทราบความชัดเจนอีกครั้ง คาด 1 สัปดาห์จะชัดเจน.....
นอกจากนั้น จากการผ่าซากพิสูจน์ในกระเพาะอาหาร ไม่พบเศษอาหารหรือขยะที่เป็นอันตรายที่อาจจะส่งผลกระทบทำให้ตายได้ จึงคาดว่าวาฬบรูด้าตัวดังกล่าว น่าจะป่วยตายตามธรรมชาติ ก่อนจะถูกเรือชนและลากเข้ามายังฝั่งท่าเรือแหลมฉบัง.....
|