นายอำเภอศรีราชา จังหวัดชลบุรี รุดเข้าไปดูแลเด็กชายกวีหลังพ่อถูกจับดำเนินคดีในข้อหาอนาจาร ตรวจสอบพบพ่อเป็นต่างด้าวต้องถูกส่งตัวกลับประเทศ ตรวจสอบแม่พบไปมีครอบครัวใหม่ มีลูกอีก 5 คนที่จังหวัดสกลนคร เตรียมประสานพัฒนาสังคมฯ เข้าตรวจสอบและช่วยเหลือต่อไป
จากกรณีนายขวัญเลิศ พานิชมาท สส.ชลบุรี เขต 5 พรรคก้าวไกล ได้ลงพื้นที่แจกสิ่งของบรรเทาทุกข์ช่วงสถานการณ์โควิด 19 และได้ไปพบกับเด็กชาย กวีวัฒน์ คำเลิศ อายุ 12 ปี ที่ต้องอาศัยอยู่คนเดียว บริเวณชุมชนวังค้อ ม.6 ต.บึง อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี หลังจากพ่อถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมในข้อหาอนาจาร อยู่ระหว่างดำเนินคดีทางกฎหมาย ส่วนแม่แยกทางไปมีครอบครัวใหม่อยู่ที่จังหวัดสกลนครนั้น
ล่าสุดวันนี้ ( 23 มิ.ย. ) นายดงพล รุจิธรรมธัช นายอำเภอศรีราชา จังหวัดชลบุรี พร้อมด้วย นางนัทธมน กิจดำรงกุล หัวหน้าบ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดชลบุรี ,เจ้าหน้าที่พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ,เทศบาลนครเจ้าพระยาสุรศักดิ์ ได้ลงพื้นที่บ้านบริเวณชุมชนวังค้อ ม.6 ต.บึง อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี เพื่อเข้าช่วยเหลือเด็กชาย กวีวัฒน์ คำเลิศ อายุ 12 ปี ที่ต้องอยู่ลำพังคนเดียว หลังจากบิดาได้ถูกจับดำเนินคดีในข้อหาอนาจารนั้น พบว่าในเบื้องต้น นายดงพล รุจิธรรมธัช นายอำเภอศรีราชา จังหวัดชลบุรี ได้ตรวจสอบพบว่า พ่อของเด็กชายกวีที่ถูกจับตัวดำเนินคดีในข้อหาอนาจารนั้นเป็นบุคคลต่างด้าว สัญชาติกัมพูชา และไม่มีบัตรอนุญาตเข้าทำงานในราชอาณาจักรไทย ซึ่งจะต้องถูกส่งตัวกลับไปยังประเทศกัมพูชาตามขั้นตอนของกฎหมายด้วย
ทางอำเภอศรีราชาจึงได้ประสานเจ้าหน้าที่พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดชลบุรีให้ประสานไปยัง พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดสกลนคร เนื่องจากตรวจสอบพบว่ามารดาของเด็กชายกวีอาศัยอยู่ที่นั่น และได้ไปมีครอบครัวใหม่มีลูกเพิ่มอีก 5 คนและมีสามีใหม่ด้วยว่าจะสามารถเลี้ยงดูเด็กชายกวีได้หรือไม่ ซึ่งโดยส่วนตัวด้วยความเป็นแม่เป็นลูกกันเชื่อว่าแม่น้องกวีจะต้องอยากนำไปเลี้ยงดูด้วยตนเอง แต่ก็ต้องให้ พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดสกลนคร ร่วมตรวจสอบอีกครั้ง ในเบื้องต้นทางอำเภอศรีราชา จะนำเด็กชายกวีไปทำบัตรประชาชนเพื่อยืนยันว่ามีสัญชาติไทยก่อน และส่งมอบให้เด็กชายกวีไปอยู่ในความดูแลของบ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดชลบุรีก่อน
ด้านนางนัทธมน กิจดำรงกุล หัวหน้าบ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดชลบุรี เปิดเผยว่าทางบ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดชลบุรีจะนำเด็กชายกวีไปอยู่ในความดูแลก่อนเพื่อให้เกิดความปลอดภัยแก่เด็ก ต่อไปจะประสานครอบครัวแม่ของเด็กชายกวีที่อยู่ในจังหวัดสกลนคร ก่อนจะตรวจสอบว่าคุณแม่ของเด็กชายกวีจะสามารถดูแลเด็กชายกวีในระยะยาวได้หรือไม่ และเข้าไปเตรียมความพร้อมเพื่อให้อยู่กับครอบครัวได้ต่อไป
ซึ่งถ้าหากทางครอบครัวของคุณแม่ที่จังหวัดสกลนครไม่พร้อมก็จะมีหน่วยงานของพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์เข้าไปดูแล ซึ่งจะเป็นสถานสงเคราะห์เข้าไปดูแลต่อไป แต่สำหรับสถานสงเคราะห์นั้นจะเป็นที่สุดท้ายที่จะเข้ามาดูแลเด็กชายกวีต่อไป