หนุ่มใหญ่ประกาศตามหาลูกสาวที่ติดต่อไม่ได้นานเกือบ 2 เดือน โดยทิ้งลูกน้อย 3 ชีวิตไว้ให้เลี้ยง แต่ไม่เคยส่งเสียเลี้ยงดู ล่าสุดถึงเวลาเด็กต้องเรียนญาติจึงพาไปเรียนโรงเรียนวัดใกล้บ้าน ไม่มีเงินซื้อเสื้อผ้า อาหาร โชคดีมีร้านค้าใจดีให้ฟรีมา 1 ชุด และ ส.ส.หนึ่ง ขวัญเลิศ ทราบเรื่องนำทีมเข้าช่วยเหลือเบื้องต้น

ผู้สื่อข่าวได้รับเรื่องร้องขอจาก นายวิชาญ จันทร์ประภาส อายุ 57 ปี ขอให้ช่วยประกาศตามหาบุตรสาวคือ นางฉมนันท์ จันทร์ประภาส ที่ไม่สามารถติดต่อได้เป็นเวลากว่าสองเดือนแล้ว โดยทิ้งลูกน้อยวัย 7 ขวบ 5 ขวบ และ 3 ขวบไว้ให้ตนเองเลี้ยง ก่อนจะหายไป ไม่สามารถติดต่อได้ ส่วนพ่อของเด็กตอนนี้ได้เลิกรากันไปนานแล้วและไม่เคยติดต่อมา โดยขณะนี้เด็กชายคนโตอายุ 7 ขวบ เด็กหญิงคนที่สองอายุ 5 ขวบ และเด็กชายคนที่ 3 อายุ 3 ขวบ ซึ่งสองคนแรก ได้ส่งเข้าเรียนชั้น ป.1 และอนุบาล 2 ที่โรงเรียนวัดเขาฉลาก ที่อยู่ใกล้บ้าน ซึ่งต้องมีค่าใช้จ่ายในการเรียนเป็นจำนวนเงินไม่น้อย ทั้งค่าเทอม ค่าเสื้อผ้า ชุดนักเรียน อุปกรณ์การเรียน อาหารการกินต่าง ๆ ซึ่งทางครอบครัวตนเองก็ไม่ค่อยจะมีกินมีใช้เท่าไหร่ ต้องทำงานหาเงินเลี้ยงครอบครัวของแต่ละคนอีกด้วย โดยล่าสุดเปิดเทอมมา ไม่มีเงินซื้อชุดนักเรียน แต่โชคดีที่ร้านขายเสื้อผ้านักเรียนได้มอบชุดนักเรียนให้ฟรี 1 ชุด ส่วนอีกคนให้ใส่ชุดนักเรียนเก่าไปก่อน สำหรับเด็กคนเล็ก ได้ส่งตัวไปให้ญาติเลี้ยงดูก่อน ไม่มีเวลาจะมาเลี้ยงดูเด็ก ๆ ได้ตลอดเวลา

จึงอยากให้ช่วยประกาศตามหาแม่เด็กซึ่งเป็นลูกสาวของตนเอง ให้กลับบ้านมาเลี้ยงลูกทั้งสามคนด้วย โดยอยากให้ลูกสาวกลับมาคุยกันว่าจะเอายังไง จะรับผิดชอบเลี้ยงดูหรือไม่ ซึ่งถ้าไม่กลับมาอาจจะต้องยกให้สถานเลี้ยงเด็กกำพร้านำไปเลี้ยงแทน ซึ่งในตอนนี้เดือดร้อนทำงานหาเงินไม่ได้ ต้องมาดูเด็ก แล้วเด็กก็เพิ่งเข้าเรียนต้องคอยวิ่งรับ-ส่ง ไปกลับโรงเรียนทุกวัน

หลังจากนั้น “ส.ส.หนึ่ง” ขวัญเลิศ พานิชมาท ส.ส.เขตอำเภอศรีราชา จังหัดชลบุรี ทราบเรื่องจึงเดินทางไปตรวจสอบด้วยตนเอง พร้อมทั้งนำข้าวสาร อาหารแห้ง ไข่ และนม นำไปมอบให้กับครอบครัวและเด็ก ๆ พร้อมทั้งยังมอบเงินจำนวนหนึ่งเพื่อให้ไปซื้อชุดนักเรียน อุปกรณ์การเรียน และไว้ใช้จ่ายด้วย พร้อมทั้งยังให้การช่วยเหลือด้วยการจะช่วยประชาสัมพันธ์ตามหาพ่อแม่ของเด็กน้อยเหล่านี้ให้ด้วย ส่วนเรื่องอาหารการกินถ้าไม่มีกิน ก็สามารถติดต่อไปที่ทีมงานของ ส.ส.หนึ่ง เพื่อไปรับข้าวสารอาหารแห้งมาทำกินได้ตลอดเวลา รวมทั้งจะนำเรื่องเข้าปรึกษาหารือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อให้การช่วยเหลือในระยะต่อไป