
|
สว.พบประชาชนภาคตะวันออก พร้อมลงพื้นที่รับฟังความคืบหน้าโครงการพัฒนาท่าเรือแหลมฉบัง เฟส 3 และการดำเนินโครงการเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC)
วันนี้( 3 ก.พ. 2566) ที่ ห้องประชุมสโมสร ศูนย์สวัสดิการพนักงานท่าเรือแหลมฉบัง อำเภอศรีราชา จังหวัดจังหวัดชลบุรี คณะกรรมการโครงการสมาชิกวุฒิสภาพบประชาชนในพื้นที่จังหวัดภาคตะวันออก นำโดย พลเอก สิงห์ศึก สิงห์ไพร รองประธานวุฒิสภา คนที่หนึ่ง ในฐานะประธานกรรมการโครงการสมาชิกวุฒิสภาพบประชาชน พลเอก วรพงษ์ สง่าเนตร รองประธานกรรมการ คนที่หนึ่ง และคณะกรรมการการฯ รวมทั้ง นางสาวชนิดา จันทรนคร ผู้เชี่ยวชาญด้านติดตามการปฏิบัติราชการในพื้นที่ภาคกลาง (ผู้แทนผู้ตรวจราชการสำนักนายกรัฐมนตรี เขต ๘) ลงพื้นที่รับฟังข้อคิดเห็นและข้อเสนอแนะของประชาชนในพื้นที่จังหวัดชลบุรี และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยมีนายอำนาจ เจริญศรี รองผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี และนายวรจักร สถาพรภิญโญ นายอำเภอศรีราชา ให้การต้อนรับ
พร้อมมีนายธัชพล กาญจนกูล รองเลขาธิการสายงานพื้นที่และชุมชน สำนักงานคณะกรรมการนโยบายเขตพิเศษภาคตะวันออก (สกพอ.) บรรยายสรุป ความคืบหน้าโครงการพัฒนาท่าเรือแหลมฉบัง ระยะที่ 3 และการดำเนินโครงการเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) ในประเด็นการพัฒนาเครือข่าย 5G ในพื้นที่ EEC สู่เทคโนโลยีดิจิทัล และนวัตกรรมขั้นสูง แนวทางการแก้ไขปัญหา การขับเคลื่อนและพัฒนาด้านการศึกษา ด้านบุคลากร ด้านแรงงานที่เป็นประชากรแฝงที่มีฝีมือและไม่มีฝีมือ ด้านอุตสาหกรรม การคมนาคมและขนส่ง ด้านสาธารณสุข ด้านสังคมและสิ่งแวดล้อม และด้านการบริหารจัดการน้ำในพื้นที่ EEC รวมทั้งรับฟังข้อคิดเห็นและข้อเสนอแนะจากประชาชนที่ได้รับประโยชน์และผลกระทบจากโครงการเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก
ด้านพลเอก สิงห์ศึก สิงห์ไพร ประธานกรรมการโครงการสมาชิกวุฒิสภาพบประชาชน กล่าวว่า จากการรับข้อมูลในครั้งนี้ โดยเฉพาะโครงการพัฒนาท่าเรือแหลมฉบัง เฟส 3 ซึ่งเป็นโครงการขนาดใหญ่ ที่มีความล่าช้ากว่ากำหนดไปบ้าง เนื่องจากสภาพการทำงาน ,สถานการณ์โควิด หรือ เครื่องจักรที่ต้องนำเข้ามาจากต่างประเทศ แต่อย่างไรก็ตามในภาพรวมแล้วปัญหาหรือผลกระทบจากการโครงการก่อสร้าง ไม่มีผลกระทบต่อประชาชนในพื้นที่โดยรอบแต่อย่างไร โดยมีเพียงปัญหาการจราจรเท่านั้น ซึ่งทางรัฐบาลได้กำชับหน่วยงานที่รับผิดชอบให้ดำเนินการแก้ไขในจุดนี้แล้ว
สำหรับท่าเรือแหลมฉบัง เฟส 3 นั้น โดยตามแผนงานคาดว่าจะแล้วเสร็จ ในปี พ.ศ. 2568 หรือถ้าล่าช้าก็อาจแล้วเสร็จในปี พ.ศ. 2569 ซึ่งข้อมูลที่ได้รับนั้นก็ไม่น่ากังวลใจแต่อย่างไร ส่วนข้อคิดเห็นและข้อเสนอแนะต่าง ๆ ทางคณะจะดำเนินการตามหน้าที่และอำนาจของวุฒิสภาต่อไป
|