
|
บริษัทเบสท์ริน กรุ๊ป ขนรถโดยสาร NGV. จำนวน 291 คัน ออกจากท่าเรือแหลมฉบังแล้วค่ำวันนี้ หลังจากเลื่อนการนำรถออกจากท่าเรือแหลมฉบัง มาแล้วหลายครั้ง...
วันนี้(11 มกราคม 2560) แหล่งข่าวจากศุลกากรท่าเรือแหลมฉบัง แจ้งว่า ในวันนี้บริษัทเอกชนตัวแทนนำเข้า ขนรถโดยสาร NGV ของ บริษัทเบสท์ริน กรุ๊ป ได้มายื่นใบขนให้ทำการตรวจสอบรายละเอียดของรถเมล์ ซึ่งจอดอยู่ในเขตคลังทัณฑ์บนสินค้า เพื่อให้เจ้าหน้าที่กรมศุลกากรตรวจสอบสภาพรถว่าถูกต้องมีรายละเอียดตามที่แจ้งใบขนหรือไม่ หากไม่ถูกต้องจะถูกดำเนินคดี แต่หากถูกต้องตามที่ใบขนแจ้งสามารถนำรถออกไปได้...
เนื่องจากในเบื้องต้นสภาพรถเมล์เข้าข่ายต้องนำมาพิจารณาดำเนินคดี จึงมี 2 ทางเลือกให้ดำเนินการ คือ 1. การนำเงินวางประกันให้คุ้มกับค่าปรับทางคดีกรมศุลกากร หรือ 2. ภาคเอกชนสามารถจ่ายภาษีนำเข้าร้อยละ 40 หรือ 1.4 ล้านบาทต่อคัน ทั้งหมด 291 คัน เป็นเงินทั้งหมด 407.4 ล้านบาท เพื่อนำไปเข้ากระบวนการทดสอบและติดตั้งระบบจีพีเอส ตรวจสภาพจดทะเบียนกับกรมการขนส่งทางบก (ขบ.) จากนั้นค่อยมาต่อสู้คดีเกี่ยวกับการเสียภาษีนำเข้า หากมีข้อโต้แย้งในการใช้สิทธิ์ทางภาษีของกลุ่มอาเซียน เนื่องจากการสู้ทางคดีต้องใช้เวลานาน โดยทางกรมศุลกากรแหลมฉบังพร้อมให้บริษัทเอกชนมายื่นใบขน เพื่อนำรถออกไปให้บริการตามสัญญากับองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) แต่ต้องจ่ายเงินภาษีนำเข้าให้เรียบร้อย...
โดยในวันนี้ทางบริษัทฯ ได้นำมาเงินมาวาง เรียบร้อยแล้ว หลังจากเลื่อนมาหลายวัน และ จากการตรวจสอบเอกสารต่างๆ แล้วทางบริษัทสามารถนำรถ ดังกล่าวออกไป โดยทางบริษัท ฯได้มาทำเรื่องเพื่อดำเนินการนำรถออกได้เรียบร้อยตั้งแต่ช่วงเย็น และขณะนี้เจ้าหน้าที่ศุลกากรจากส่วนกลาง อยู่ระหว่างการตรวจสภาพรถ เช่น คัสซี แบตเตอร์รี่รถยนต์ หมายเลขเครื่อง ฯลฯ ซึ่งต้องใช้เวลาในการตรวจสอบ เนื่องจากรถโดยสารที่จะนำออกในครั้งนี้ทั้งสิ้น 291 คัน แต่มีเจ้าหน้าที่ตรวจสอบ ประมาณ 20 คนเท่านั้น...
ด้านเจ้าหน้าที่ของบริษัทเบสท์ริน กรุ๊ป กล่าวว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างการตรวจสอบสภาพรถจากเจ้าหน้าที่ศุลกากร ซึ่งขณะนี้ตรวจไปแล้วเกือบ 200 คันแล้ว คาดว่าน่าจะแล้วเสร็จประมาณ 21.00 น.-22.00 น. และเมื่อตรวจเสร็จแล้วก็พร้อมนำรถออกทันที ซึ่งขณะนี้ได้เตรียมคนขับรถไปพร้อมแล้ว เมื่อเสร็จก็ขับเข้ากรุงเทพฯทันที...
|