|
เจ้าหน้าที่เข้ารื้อถอนบ้านเรือนประชาชน 16 หลัง บุกรุกทางสาธารณะ ต.หนองขาม คาดจะแล้วเสร็จภายใน 20 วัน…

|
เทศบาลนครแหลมฉบัง พร้อมหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง กว่า 100 คน เข้ารื้อถอนบ้านเรือนประชาชน 16 หลัง ที่บุกรุกก่อสร้างบนทางสาธารณะ ต.หนองขาม คาดจะแล้วเสร็จภายใน 20 วัน…
ตามที่อำเภอศรีราชา แจ้งให้เทศบาลนครแหลมฉบัง ดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริง กรณีมีผู้ร้องเรียนว่า มีการบุกรุกทางสาธารณประโยชน์บริเวณพื้นที่ หมู่ที่ 11 ตำบลหนองขาม อำเภอศรีราชา จังหวัดชลบุรี ซึ่งอยู่ในพื้นที่ของเทศบาลนครแหลมฉบัง โดยพื้นที่ดังกล่าวติดกับโครงการหมู่บ้านแหลมฉบัง-วิลล่า ทำให้ไม่สามารถใช้ถนนในการสัญจรเข้า-ออกได้...
หลังจากนั้นทางสำนักการช่าง เทศบาลนครแหลมฉบัง จึงได้ทำการตรวจสอบ พบว่ามีการก่อสร้างอาคารโดยไม่ได้รับอนุญาตบนลำห้วยสาธารณะและทางสาธารณประโยชน์ จำนวน 16 หลัง ซึ่งมีความผิดตามพระราชบัญญัติควบคุมอาคาร พ.ศ.2522 ประมวลกฎหมายอาญา และประมวลกฎหมายที่ดิน จึงได้ออกคำสั่งตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง ให้เจ้าของหรือผู้ครอบครองอาคารทราบ และดำเนินการโดยมีระยะเวลาตามที่กฎหมายกำหนด ซึ่งเมื่อครบกำหนดเจ้าของหรือผู้ครอบครองอาคารมิได้รื้อถอนอาคารหรืออุทธรณ์คำสั่งแต่อย่างใด ฝ่ายกฎหมาย กองวิชาการและแผนงาน เทศบาลนครแหลมฉบัง จึงดำเนินการแจ้งความดำเนินคดีที่สถานีตำรวจภูธรหนองขาม เมื่อวันที่ 11 พฤศจิกายน 2559 รวมทั้งได้รายงานข้อเท็จจริงให้นายอำเภอศรีราชา และผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรีทราบแล้วนั้น…
ล่าสุด วันนี้(9 กุมภาพันธ์ 2560) นายเรวัติ เขียวสนิท รองนายกเทศมนตรีนครแหลมฉบัง ในฐานะเจ้าพนักงานท้องถิ่น พร้อมด้วย นายภูษิต แจ่มศรี ปลัดเทศบาลนครแหลมฉบัง ตัวแทนจากศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดชลบุรี นาย วันชาติ วรรณพราหมณ์ ปลัดอำเภอศรีราชา ซึ่งเป็นผู้ได้รับมอบหมายจากนายอำเภอศรีราชา นายสมชาย ซื่อสัตย์ หัวหน้าฝ่ายอำนวยการสำนักงานที่ดินจังหวัดชลบุรี สาขาศรีราชา หัวหน้าส่วนราชการของเทศบาลนครแหลมฉบัง เจ้าหน้าที่สำนักการช่าง เจ้าหน้าที่เทศกิจเทศบาลนครแหลมฉบัง และผู้เกี่ยวข้องเกือบ 100 คน ได้เข้าดำเนินการรื้อถอนในครั้งนี้…
นายเรวัติ กล่าวว่า จากการเข้ามารื้อถอนดังกล่าวพบว่า มีบางรายได้ทำการรื้อสิ่งของออกมากองไว้บริเวณหน้าบ้านบ้างแล้ว เพื่อทำการขนย้ายออกไปจากพื้นที่สาธารณะ แต่มีบางรายที่ยังไม่ได้ทำการรื้อถอน ทางเจ้าหน้าที่จึงได้แจ้งให้เจ้าของบ้านทราบ เนื่องจากเทศบาลฯได้ว่าจ้างบริษัทเอกชนเข้ามารื้อถอนบ้านเรือนทั้งหมดให้แล้วเสร็จภายใน 20 วัน ซึ่งหากให้เทศบาลฯ ทำการรื้อถอน อาจทำให้สิ่งของภายในบ้านเสียหายทั้งหมดและไม่สามารถนำไปใช้ได้ จึงขอให้เจ้าของบ้านทำการรื้อถอนเอง ซึ่งส่วนใหญ่รับปากจะทำการรื้อถอนเองแล้วขนย้ายของออกไป...
นายเรวัติ กล่าวต่อว่า สำหรับพื้นที่บริเวณดังกล่าว ทางเทศบาลฯ มีโครงการจะพัฒนาให้เป็นทางสาธารณะที่ได้มาตรฐาน เพื่อให้ประชาชนที่อยู่บริเวณดังกล่าวอย่างถูกต้องสามารถเดินทางเข้า-ออกได้อย่างสะดวกสบายต่อไป...
ด้านนางทรรศนีย์ แพรกทอง ชาวบ้านที่ถูกรื้อถอน กล่าวว่า ที่ผ่านมาทราบว่าที่ดินบริเวณดังกล่าวเป็นทางสาธารณะ โดยมีเพื่อนที่อยู่บริเวณนี้มาก่อนชักชวนมา จึงเดินทางมาอยู่บริเวณดังกล่าว แต่ขณะนี้ยังไม่สามารถรื้อถอนในช่วงนี้ได้ เนื่องจากไปติดต่อหาบ้านเช่าหรือที่พักแห่งใหม่ ยังหาไม่ได้และที่หาได้ก็มีราคาค่อนข้างสูงจึงสู้ราคาไม่ไหว แต่อย่างไรก็ตามต้องไปหาที่พักแห่งใหม่ให้ได้โดยเร็ว เนื่องจากทางเทศบาลฯ กำหนดเส้นตายให้ทำการรื้อถอน หากไม่รื้อถอนทางเทศบาลฯจะเข้ามารื้อถอน ซึ่งอาจจะทำให้ทรัพย์สินเสียหายทั้งหมด ดังนั้นจึงได้แจ้งให้ทางเทศบาลฯทราบและพร้อมจะรื้อถอนในเร็วๆนี้...
นายวันชาติ วรรณพราหมณ์ ปลัดอำเภอศรีราชา กล่าวถึง ปัญหาการบุกรุกที่ดินสาธารณประโยชน์นั้น ขณะนี้ทางอำเภอได้ตั้งคณะทำงานในการตรวจสอบดูแลและปกป้องที่ดินสาธารณประโยชน์ไว้ ตามนโยบายของรัฐบาล โดยคณะทำงานได้ติดตามตรวจสอบพื้นที่ต่างๆใน 8 ตำบล พบว่ามีการบุกรุกที่ดินสาธารณประโยชน์ทั้งสิ้น 66 แปลง เนื้อที่ทั้งสิ้นกว่า 1,000 ไร่ โดยแปลงที่ดำเนินการรื้อถอนอยู่ในขณะนี้ เป็นหนึ่งในแผนงานดังกล่าว และจะต้องดำเนินการในลักษณะเช่นนี้ทั้ง 66 แปลงด้วย...
นายวันชาติ กล่าวต่อว่า ซึ่งขณะนี้ประชาชนส่วนมากเข้าใจผิดว่ามาอยู่ในพื้นที่ดังกล่าวเป็นเวลานานสามารถจะไปขอออกโฉนดที่ดิน เพื่อเป็นกรรมสิทธิ์ของตนเองได้ ซึ่งเรื่องดังกล่าวไม่เป็นความจริงดังนั้นหน่วยงานที่รับผิดชอบจึงต้องรีบเข้ามาดำเนินการ ตามนโยบายของรัฐบาลที่ให้ป้องกันที่ดินสาธารณประโยชน์…
|
|
|
|
|