คนร้ายอุกอาจ บุกเดี่ยว ใช้อาวุธปืนบุกจี้ธนาคารกรุงเทพฯ(สาขาศรีราชา 2) หลังก่อเหตุเสร็จ เตรียมออกประตูหน้าแต่พบเจ้าหน้าที่ตำรวจ รีบวกกลับวิ่งขึ้นชั้น2 กระโดดหน้าต่าง ไปจี้รถเก๋งหนุ่มบ้านหลังธนาคาร ขับรถหลบหนีโดยไม่ทราบทิศทาง แต่ไม่ทันถึง 2 ชั่วโมงก็ถูกรวบตัวได้พร้อมเงินที่เพิ่งก่อเหตุมา โดยการสนธิกำลังของเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ศรีราชา สภ.หนองขาม และฝ่ายปกครองศรีราชา ที่ร่วมกันปิดล้อม จนสามารถจับกุมตัวผู้ก่อเหตุได้ภายใน 2 ชั่วโมง พร้อมเงินสดที่ก่อเหตุไป โดยอ้างต้องการหาเงินไปใช้หนี้พนันฟุตบอล.....
เมื่อเวลา 12.30 น. วันที่ 29 ก.ย. 2559 พ.ต.ท.สุทิน นิลแย้ม สารวัตรสอบสวนสถานีตำรวจภูธรศรีราชา ได้รับแจ้งมีคนร้ายใช้อาวุธปืนบุกเจ้าไปจี้เงินพนักงานธนาคารกรุงเทพฯ (สาขาศรีราชา 2) บริเวณถนนศรีราชา-หนองยายบู่ หมู่ 8 ต.สุรศักดิ์ อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี จึงรายงานให้ พล.ต.ต.อำพล บัวรับพร ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดชลบุรี พ.ต.อ.ภพพล จักกะพาก ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรศรีราชา พร้อมประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจในพื้นที่ใกล้จุดเกิดเหตุและฝ่ายปกครองอำเภอศรีราชา มาช่วยกันปิดล้อม เนื่องจากคนร้ายยังอยู่ในธนาคาร.....
โดยเมื่อเจ้าหน้าที่มาถึงธนาคาร คนร้ายที่ก่อเหตุก็เห็นเจ้าหน้าที่บริเวณด้านหน้าประตู จึงชักปืนออกมาขู่แล้ววิ่งขึ้นไปบนชั้น 2 ก่อนจะเปิดหน้าต่างด้านหลังธนาคารแล้วกระโดดลงมาขากชั้น 2 วิ่งไปตามหลังคาตึกและไปลงที่บ้านเลขที่ 372/102 หมู่ 8 ต.สุรศักดิ์ แล้วใช้อาวุธปืนจี้ น.ส.เวียงแก้ว เจริญศักดิ์ ภรรยา ของนายภานุวัฒน์ บัวงาม เจ้าของรถยนต์เก๋ง ยี่ห้อมิตซูบิชิ แอดพาร์ด สีขาว หมายเลขทะเบียน 3 กค. 2177 กรุงเทพฯ ขณะอยู่ในบ้านแล้วได้กุญแจขับรถออกไปฝ่าเจ้าหน้าที่ตำรวจที่เข้าปิดล้อมหลบหนีออกมาโดยไม่ทราบทิศทาง…..
สอบถามนายสมทัย จันเพ็ง อายุ 48 ปี เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยธนาคารกรุงเทพ (สาขาศรีราชา 2) กล่าวว่า คนร้ายสูงประมาณ 170 เซนติเมตร ผิวดำแดง ใส่เสื้อเจ็กเก็ต สีดำ กางเกงสีเข้ม เปิดประตูเข้ามา จากนั้นได้ล้วงหยิบอาวุธปืน และสเปรย์พริกไทย ออกมาจากกระเป๋าสะพายสีดำ จากนั้นฉีดสเปรย์ใส่ตาของตนเอง ทำให้ตนมองอะไรไม่เห็น จากนั้นคนร้ายก็ตรงเข้าไปยังเคาเตอร์ธนาคาร และใช้อาวุธปืนออกมาขู่บังคับพนักงานให้นำเงินใส่กระเป๋าที่เตรียมมาอย่างเร็ว โดยได้เงินสดไปเกือบ 1 ล้านบาท แล้วหลบหนีไปได้ดังกล่าว…..
ด้านนายายภานุวัฒน์ บัวงาม เจ้าของรถยนต์เก๋ง กล่าวว่า ตนและแฟนสาวอยู่ภายในบ้าน ขณะนี้แฟนสาวได้ยินเสียงอะไรตกลงมาจากหลังคาหน้าบ้านจึงออกไปดูก็พบคนร้ายกระโดดลงมาจากหลังคา จากนั้นได้ใช้อาวุธปืนจี้และบังคับให้เอากุญแจรถยนต์ส่งมาให้ โดยไม่แตะต้องทรัพย์สินใดเลย ซึ่งตนไม่กล้าขัดขืนจึงคว้ากุญแจรถส่งกุญแจให้ จากนั้นคนร้ายก็รีบขับรถพุ่งออกมาอย่างรวดเร็ว…..
ต่อมาเมื่อเวลา 14.45 น. พ.ต.อ.ภพพล จักกะพาก ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรศรีราชาและ พ.ต.อ.ชนพัฒน์ นวลักษณ์ ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรหนองขาม พร้อมด้วย น.ส.นริศรา ทิพยางกูร ปลัดฝ่ายปกครองอำเภอศรีราชา ได้ร่วมกันนำกำลังเจ้าหน้าที่กระจาบแยกกันปิดล้อมเป็นบริเวณกว้างในการติดตามคนร้าย จนไปพบรถยนต์เก๋ง มิสซูบิชิ แอททราจ สีขาว หมายเลขทะเบียน 3 กค-2177 กรุงเทพฯ ที่จี้ไปจอดทิ้งไว้บริเวณริมถนนใกล้กับวัดบ่อหิน หมู่ 5 ต.หนองขาม อ.ศรีราชา ซึ่งห่างจากธนาคารฯที่ก่อเหตุประมาณ 4 กิโลเมตร โดยตรวจสอบภายในรถพบอาวุธปืนบีบีกัน 1 กระบอก วางอยู่ที่เบาะฝั่งคนขับและเสียบกุญแจรถคาไว้แต่ดับเครื่องยนต์ ตรวจสอบบริเวณที่รถถูกจอดทิ้งไว้เจ้าหน้าที่พบทางเดินของคนร้ายที่ก่อเหตุเดินเข้าไปในป่ากว้างประมาณ 1 ไร่ จึงได้วิทยุกระจายปิดล้อมป่าแห่งนี้.....
ซึ่งระหว่างที่เจ้าหน้าที่ปิดล้อมกันอยู่นั้นได้รับแจ้งจากชาวบ้าน ว่าพบผู้ต้องสงสัย มีกระเป๋าสะพายได้เดินลุยป่าไปอีกฝั่งที่มีบ้านของชาวบ้านซึ่งอยู่ห่างจากจุดจอดรถเก๋งประมาณ 500 เมตร และคนร้ายน่าจะมีบ้านอยู่แถวนั้นในการหลบหนีไปเพื่อเปลี่ยนชุดที่ใช้มาก่อเหตุ เจ้าหน้าที่อีกชุดจึงเข้าปิดล้อมก่อนที่จะพบคนร้ายขับรถยนต์กระบะ มิตซูบิชิ ไทรทัน 4 ประตู สีดำ หมายเลขทะเบียน ขย 7317 ชลบุรี ออกมาเพื่อจะขับหลบหนีไป เจ้าหน้าที่จึงได้ขับรถไล่ติดตามและไปทันที่บริเวณซอยบังกาโลเรือนคำ ใกล้กับวัดบ่อหิน หมู่ 5 ต.หนองขาม ซึ่งห่างจากบ้านที่เปลี่ยนชุดประมาณ 300 เมตร ก่อนทำการควบคุมตัวไว้ได้พร้อมเงินสดจำนวน 911,400 บาท ในกระเป๋าสะพายหนังสีดำ.....
จากการสอบถามคนร้ายทราบชื่อคือ นายนิพนธ์ เสือโพด อายุ 31 ปี บ้านเลขที่ 166/5 หมู่ 5 ต.หนองขาม อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี โดยให้การรับสารภาพสาเหตุที่ก่อเหตุในครั้งนี้ เพื่อต้องการที่นำเงินที่ก่อเหตุมาไปใช้หนี้พนันฟุตบอลเท่านั้น.....
ต่อมา พล.ต.ต.อำพล บัวรับพร ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดชลบุรี ได้เดินทางมายังจุดเกิดเหตุ พร้อมควบคุมการนำตัวผู้ก่อเหตุพร้อมของกลางเงินสดที่คนร้ายจี้ไป เป็นเงินทั้งสิ้น 911,400 บาท มาทำแผนประกอบคำรับสารภาพ และโชคดีที่ทางเจ้าหน้าที่สนธิกำลังกันจึงสามารถติดตามจับกุมคนร้ายไว้ได้ภายในเวลาไม่กี่ชั่วโมง พร้อมกับเงินที่ถูกก่อเหตุไปทั้งหมดกลับคืนมาโดยไม่มีการสูญหายแต่อย่างไร.....