
|
หน่วยกู้ภัยฯ เร่งใช้เครื่องมือตัดถ่วงช่วยเหลือคนขับรถพ่วงตู้คอลเทนเนอร์ที่ขับมาแล้วจะแซงรถพ่วงบรรทุกเหล็กตันแต่มีรถวิ่งตามมาเร็วจึงหักกลับแล้วพุ่งชนท้ายอย่างแรงจนทำให้ได้รับบาดเจ็บติดคาหน้ารถ
วันนี้(16 พฤษภาคม 2560) พ.ต.ท.ธนากร พิมพการ สารวัตรเวรสอบสวนย่อยทางหลวงเขาเขียว จ.ชลบุรี รับแจ้งเหตุรถพ่วงตู้คอลเทนเนอร์พุ่งชนท้ายรถพ่วงบรรทุกเหล็ก ช่วงเนินแม่กิมบ๋วย เส้นทางสายมอเตอร์เวย์ หลักกิโลเมตรที่ 92+600 ฝั่งขาเข้าพัทยา จึงรีบรุดไปตรวจสอบพร้อมประสานหน่วยกู้ภัยเพียวเยี้ยงไท้ศรีราชา ร่วมนำอุปกรณ์ตัดถ่างพร้อมรถพยาบาลเข้าร่วมช่วยเหลือผู้ได้รับบาดเจ็บ
ที่เกิดเหตุพบหน่วยกู้ภัยกำลังเร่งใช้เครื่องตัดถ่างเพื่อช่วยเหลือนายอิศรางค์ สนพุก อายุ 44 ปี คนขับรถพ่วงตู้คอลเทนเนอร์ยี่ห้อสแกนเนียร์ สีฟ้า หมายเลขทะเบียน 76-7725 กทม. ส่วนหาง หมายเลขทะเบียน 62-3553 กทม. ที่บรรทุกตู้คอลเทนเนอร์มาเพื่อนำไปส่งแหลมฉบังแล้วพุ่งชนท้ายรถพ่วงยี่ห้อฮีโน่ สีขาว หมายเลขทะเบียน 70-0910 สมุทรสาคร ส่วนหางหมายเลขทะเบียน 76-7725 กทม. ซึ่งมีนายปัญญา กำดัด อายุ 23 ปี ขับบรรทุกเหล็กตันมาแล้วถูกชนท้ายอย่างแรงจนได้รับความเสียหายจอดอยู่ไหล่ทางข้างซ้ายพร้อมกับยืนรอเจ้าหน้าที่อยู่ในที่เกิดเหตุ
หน่วยกู้ภัยจึงได้เร่งใช้อุปกรณ์ตัดถ่างเพื่อช่วยเหลือนายอิศรางค์ ที่ด้านหน้ารถมีสภาพพังยับแล้วคอลโซนอัดบีบเข้ามาที่ขาข้างซ้ายคาอยู่หน้ารถเป็นการด่วนเพื่อเร่งช่วยเหลือออกมา ซึ่งใช้เวลาครึ่งชั่วโมงกว่า ทางหน่วยกู้ภัยจึงจะสามารถช่วยเหลือออกมาจากหน้ารถพ่วงตู้คอลเทนเนอร์ได้แล้วทำการปฐมพยาบาลก่อนเคลื่อนย้ายนำส่งรักษาที่โรงพญาไทศรีราชา ตามสิทธิ์รักษา
นายปัญญา ให้การว่า ตนเองขับบรรทุกเหล็กมาจากสมุทรปราการ เมื่อมาถึงที่เกิดเหตุก็ได้ถูกรถพ่วงคันดังกล่าวพุ่งชนท้ายอย่างแรงจนได้รับความเสียหายจึงได้จอดรถไหล่ทางแล้วลงมาดูก็พบว่าคันที่ชนนั้นคนขับได้รับบาดเจ็บติดอยู่จึงได้รีบแจ้งให้ทางเจ้าหน้าที่และหน่วยกู้ภัยทราบเพื่อมาช่วยเหลือดังกล่าว
นายอิศรางค์ ผู้บาดเจ็บ เล่าว่า ตนเองรับตู้สินค้ามาจากลาดกะบังเพื่อที่จะนำไปส่งแหลมฉบัง พอมาถึงที่เกิดเหตุได้เร่งเครื่องเพื่อจะแซงคนพ่วงคันที่ชนแต่ขณะที่กำลังจะแซงนั้นได้มีวิ่งรถมาเร็วจึงหักกลับเข้าเลนส์แล้วจะพุ่งไปชนท้ายจึงพยายามเบรกแล้วแต่ไม่ทันพุ่งเข้าไปชนท้ายอย่างแรงจนตัวเองได้รับบาดเจ็บติดอยู่ที่หน้ารถดังกล่าว
ทางเจ้าหน้าที่จึงได้ตรวจสอบและบันทึกภาพที่เกิดเหตุไว้เป็นหลักฐานแล้วจะได้เรียกทั้งสองฝ่ายมาสอบสวนเพิ่มเติมอีกครั้งเพื่อหาสาเหตุที่แน่ชัดต่อไป
|