รถจักรยานยนต์แซงขวาไม่พ้นชนกับรถจักรยานยนต์ที่ขี่สวนมาอย่างจัง ส่งผลทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 3 ราย และเสียชีวิต 1 ราย
เมื่อช่วงหัวค่ำของคืนวันที่(30 สิงหาคม 2560) ร.ต.อ.อิศราพงษ์ สุวรรณจักร รองสารวัตรสอบสวน สภ.หนองขาม จ.ชลบุรี ได้รับแจ้งจากหน่วยกู้ภัยเพียวเยี้ยงไท้ ศรีราชา ว่ามีเหตุรถจักรยานยนต์ชนกับรถจักรยานยนต์แล้วมีผู้ได้รับบาดเจ็บสาหัส 4 ราย ช่วงโค้งกำนันทิ เส้นทางสุขาภิบาล8 หมู่3 ตำบลบึง อำเภอศรีราชา จึงรีบรุดเดินทางไปร่วมตรวจสอบ
ที่เกิดเหตุพบหน่วยกู้ภัยกำลังเร่งปั้มหัวใจเพื่อยื้อชีวิตผู้ได้รับบาดเจ็บเป็นชาย 1 ราย ที่นอนหมดสติอาการสาหัสอยู่กลางถนน และเร่งให้การช่วยเหลือผู้ได้รับบาดเจ็บอีก 3 ราย ทางหน่วยกู้ภัยได้เร่งช่วยกันปฐมพยาบาลแล้วรีบเคลื่อนย้ายนำส่งโรงพยาบาลแหลมฉบังและโรงพยาบาลสมเด็จพระบรมราชเทวี ณ ศรีราชา ให้แพทย์ทำการช่วยเหลือเป็นการด่วน ส่วนผู้ได้รับบาดเจ็บที่ทางหน่วยกู้ภัยพยายามช่วยกันปั้มหัวใจเพื่อยื้อชีวิตทนอาการบาดเจ็บไม่ไหวเสียชีวิตที่เกิดเหตุ
ตรวจสอบที่เกิดเหตุพบกระบะยี่ห้อเชฟโรเลต สีบรอน หมายเลขทะเบียน บท – 2287 ชัยภูมิ ที่ด้านขวาฝั่งคนขับมีร่องรอยการถูกชนจอดอยู่ไหล่ทาง โดยมีนายสมชาติ ศรีแก้ว อายุ 42 ปี คนขับยืนรอให้การกับทางเจ้าหน้าที่อยู่ในที่เกิดเหตุ และรถจักรยานยนต์ฟีโน่ สีน้ำเงิน-ขาว หมายเลขทะเบียน 4กฬ – 7078 กทม. รถจักรยานยนต์ฮอนด้าโซนิค สีดำ หมายเลขทะเบียน จทต – 613 ชบ. และรถจักรยานยนต์ฮอนด้าโซนิค สีแดง-ดำ หมายเลขทะเบียน คนษ – 141 ชบ. ของผู้ได้รับบาดเจ็บและผู้เสียชีวิตทั้ง 3 คัน สภาพด้านหน้าพังเสียหายทั้ง 3 คัน ล้มคว่ำขวางทางอยู่ เจ้าหน้าที่จึงบันทึกภาพไว้เป็นหลักฐานแล้วนำรถจักรยานยนต์ทั้ง 3 คันเข้าข้างทางเพื่อเปิดการจราจรให้รถที่มาผ่านไปมาได้
ด้าน คนขับรถกระบะ ให้การว่า ตนเองขับรถกระบะลงมาจากทางบึงแล้วมีรถจักรยานยนต์ฟีโน่ขับตามมาตนเองจึงขับชิดขอบด้านซ้ายเพื่อจะให้รถจักรยานยนต์ฟีโน่แซงขึ้นไป แต่ขณะที่รถจักรยานยนต์ฟีโน่กำลังขับแซงขึ้นไปได้มีรถจักรยานยนต์โซนิคสีดำซึ่งขับสวนมาด้วยความเร็วจึงพุ่งชนอย่างแรงและไปชนกับรถจักรยานยนต์โซนิคสีแดงดำอีกคันที่ตามมาก่อนที่จะมากระแทกกับรถกระบะของตนจนเป็นเหตุให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิตดังกล่าว
เบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่ได้มอบศพผู้เสียชีวิตให้หน่วยกู้ภัยส่งไปชันสูตรที่โรงพยาบาลแหลมฉบังเพื่อรอญาติพร้อมจะได้เร่งทำการสอบสวนพยานแวดล้อมและสอบปากคำผู้ได้รับบาดเจ็บอีกครั้งเพื่อเป็นแนวทางในการดำเนินคดีต่อไป